สืบภาค 9 แกะรอยรวบโจรเจาะตู้เซฟจากเบาะแสเดียว

สงขลา 15 ม.ค. – สุดยอด! ชุดสืบสวนภาค 9 ตามแกะรอยคดีเจาะตู้เซฟจากรองเท้าแตะ และปลายเท้าของคนร้าย จนได้ตัว ซึ่งเป็นเพียงเบาะแสเดียวที่ได้จากที่เกิดเหตุ


ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 9 นำกำลังเข้าจับกุมนายอิรฟาน อายุ 29 ปี ชาว จ.ปัตตานี ที่บ้านเช่า ในพื้นที่้หมู่ 7 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และอำเภอใกล้เคียง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

ล่าสุดเข้าไปเจาะตู้เซฟในบ้านหลังหนึ่ง ย่าน ถ.ประชามุสลิม หมู่ 8 ต.คลองแห โดยลงมือก่อเหตุอย่างใจเย็น ตั้งแต่ช่วงเที่ยง นานนับชั่วโมง โดยใช้หินเจียรตัดตู้เซฟ เมื่อหินเจียรหมดได้ออกไปซื้อ และกลับเข้ามาบ้านหลังนี้ถึง 3 รอบ จนเจาะตู้เซฟสำเร็จ ได้ทองคำหนัก 3 บาท และเงินสดจำนวนหนึ่ง หลังก่อเหตุยังเก็บกวาดเศษปูนของตู้เซฟเอามาทิ้งข้างบ้าน แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ


คดีนี้ชุดสืบสวนภาค 9 เริ่มต้นแกะรอยจากภาพรองเท้าแตะสีครีม และนิ้วเท้าข้างซ้ายของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเพียงเบาะแสเดียวที่ได้ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากตอนเข้าไปก่อเหตุ คนร้ายใช้ไม้เขี่ยกล้องวงจรปิดให้ต่ำลง จึงมองไม่เห็นตัว เห็นแค่ปลายรองเท้าแตะและปลายเท้าเท่านั้น และตามไล่กล้องไปตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนไปพบผู้ต้องสงสัย เป็นชายขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ ทะเบียนสงขลา สวมหมวกกันน็อก ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีขาว และสวมรองเท้าแตะสีครีม แบบเดียวกับที่คนร้ายสวมใส่เข้าไปก่อเหตุเจาะตู้เซฟในบ้านหลังนี้ จึงตามแกะรอยและตรวจสอบข้อมูลรถจักรยานยนต์ จนรู้ตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ว่าเป็นใคร และตามไปจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่า ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ โดยจำนนด้วยหลักฐาน เพราะพบรองเท้าแตะคู่ที่ใส่ไปก่อเหตุ พร้อมหินเจียร และของกลางอื่นๆ รวม 18 รายการ ส่วนทองคำ 3 บาท และเงินสดที่ได้จากการเจาะตู้เซฟ อ้างว่านำไปขายและใช้หมดแล้ว

สอบสวนนายอิรฟาน ให้การว่า ก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านของชาวบ้านในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ แค่ 3 หลัง แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะก่อเหตุมาอย่างโชกโชน เพราะตรวจสอบประวัติพบยังมีหมายจับค้างเก่าของศาลจังหวัดนาทวี เมื่อวันที่ 9 ม.ค.68 ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯ และยังอยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดีในชั้นศาลคดีลักทรัพย์อีก 1 คดี

เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ และโดยเข้าทางช่องทางซึ่งทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก

ตรวจอาคารแผ่นดินไหว

ตรวจอาคารใน กทม.แล้วกว่าหมื่นแห่ง พบสีแดง 2 แห่ง ยังห้ามเข้าใช้ จากเหตุแผ่นดินไหว

หน่วยงานร่วมแถลงสถานการณ์ภาคเศรษฐกิจและระบบทางการเงินจากเหตุแผ่นดินไหว เผยตรวจสอบอาคารแล้วกว่า 10,000 แห่ง เป็นสีเขียว พบ 2 แห่ง ยังมีสีแดงไม่ให้เข้าใช้อาคาร แจง 4 บริษัทประกันภัยตึก สตง.ถล่ม ทำประกันภัยต่อกับบริษัทประกันต่างประเทศ

อพยพออกจากตึก

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ สั่งคนออกจากตึกทันที หลังเกิดเสียงดัง-รอยร้าว-เศษปูนร่วง ล่าสุดแจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว