ศปถ. สรุป 3 วัน อุบัติเหตุรวม 1,090 ครั้ง เสียชีวิต 110

กทม. 13 เม.ย.-ศปถ. สรุป 3 วัน อุบัติเหตุรวม 1,090 ครั้ง เสียชีวิต 110 ราย บาดเจ็บ 1,099 คน ประสานจังหวัดใช้กลไกในระดับพื้นที่ ตั้งด่านชุมชน บังคับใช้กฎหมายจราจร-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด

วันนี้ (13 เม.ย.64) เวลา 10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เมษายน 2564 เกิดอุบัติเหตุ 388 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 54 ราย ผู้บาดเจ็บ 373 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (10 – 12 เม.ย. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,090 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 110 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 1,099 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 25 จังหวัด ซึ่งรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ขณะที่ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเป็นกลุ่มที่มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ประสานจังหวัดใช้กลไกในระดับพื้นที่ เพิ่มความเข้มข้นในการจัดตั้งด่านชุมชนบริเวณจุดเสี่ยงที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรและกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความปลอดภัยและห่างไกลจากโควิด-19


นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นวันสามของการรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” เกิดอุบัติเหตุ 388 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 54 ราย ผู้บาดเจ็บ 373 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 30.15 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 28.35 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 87.63 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 58.25 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.08 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 33.51 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 30.15 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.74 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,896 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 59,079 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 343,703 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 65,929 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,210 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 16,553 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (22 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สกลนคร สุพรรณบุรี (จังหวัดละ 4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (21 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (10 – 12 เม.ย. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,090 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 110 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 1,099 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 25 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (49 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ชลบุรี (6 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (52 คน)

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ปภ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้คาดว่าจะมีการใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางสายรอง โดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ อบต.และหมู่บ้านมากขึ้น จึงได้ประสานจังหวัดใช้กลไกในระดับพื้นที่ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จิตอาสาเน้นการดูแลและป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน โดยเพิ่มความเข้มข้นในการจัดตั้งด่านชุมชนบริเวณจุดเสี่ยงที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เน้นการเรียกตรวจยานพาหนะและประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะการกวดขันพฤติกรรมการดื่มแล้วขับ การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ และการใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงบังคับใช้กฎหมายจราจรและกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี ท้ายนี้ ขอฝากเตือนประชาชนใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัย อีกทั้งร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ด้วยการรด ริน พรมน้ำ และไม่สาดน้ำใส่กัน โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข (DMHTT) เพื่อให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความปลอดภัยและห่างไกลจากโควิด-19.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน