รัฐสภา 5 เม.ย. – “นพ.สุกิจ” ยัน 7-8 เม.ย. ยังประชุมร่วมพิจารณากฎหมายประชามติ-ยาเสพติด แจง ส.ส.-ส.ว.ร่วมงานเลี้ยงทูตญี่ปุ่นต้องตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าประชุม
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 7-8 เมษายนนี้ว่า เนื่องด้วยมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จึงได้ส่งหนังสือนัดประชุมไปยังสมาชิกรัฐสภาแล้ว ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 7-8 เมษายนนี้ โดยมีระเบียบวาระที่สำคัญ คือ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้วและมีการเลื่อนการประชุมมาจากวันที่ 18 มีนาคม เนื่องจากวันนั้นมีการพิจารณาในมาตรา 9 ที่ประชุมได้มีมติเห็นด้วยกับการสงวนความเห็นของ กมธ.เสียงข้างน้อย ทำให้ประธานในที่ประชุมได้สั่งพักการประชุม เพื่อให้ กมธ.แก้ไขมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน แต่ไม่อาจทำได้ทัน ต่อมานายชวนได้ถามตัวแทนของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ถ้านำไปแก้ไขจะต้องใช้เวลาเท่าไร ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งว่า ใช้เวลา 1 สัปดาห์ ก่อนจะประสานไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเปิดประชุมสมัยวิสามัญอีกครั้ง ซึ่งทางครม.ก็ไม่ได้ขัดข้อง รวมทั้งที่ประชุมในวันนั้นมีหลายฝ่ายที่อยากจะพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนเปิดประชุมสมัยสามัญในเดือนพฤษภาคม และในการประชุมสมัยวิสามัญครั้งนี้จะมีการเริ่มต้นพิจารณาในมาตรา 10 ต่อไป
นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับยาเสพติด มี 3 ร่าง คือ พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ… ร่างประมวลยาเสพติด ซึ่งทั้ง 2 ฉบับนี้เกี่ยวเนื่องกัน และยังมีร่างพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่…) พ.ศ…. คาดว่าระเบียบวาระทั้งหมดจะใช้เวลาในการพิจารณา 2 วันจะแล้วเสร็จ
สำหรับกรณีที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยติดเชื้อโควิด-19 และมีส.ส.รวมทั้ง ส.ว.หลายคนกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา นพ.สุกิจ กล่าวว่า หลังจากที่นายชวนได้รับทราบเรื่องดังกล่าว ได้มีบัญชาด่วนให้สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักแพทย์ของสภาดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วนที่สุด โดยมีมาตรการแจ้งไปยัง ส.ว.และ ส.ส.ที่ไปร่วมงานเลี้ยง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้รู้ผลก่อนวันประชุมสมัยวิสามัญ หากใครที่ไม่ได้ไปตรวจ เมื่อถึงวันประชุมจะไม่อนุญาตให้เข้าห้องประชุม จนกว่าจะได้รับการตรวจหาเชื้อโควิดที่สภา ซึ่งที่สภาจะเป็นการตรวจเลือดที่เรียกว่า rabbit test ดังนั้นสมาชิกรัฐสภาที่จะเข้าร่วมจะตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างใดอย่างหนึ่งมาเพื่อความปลอดภัย และขอยืนยันว่าในวันที่ 7-8 เม.ย. นี้ จะมีการประชุมเช่นเดิมแน่นอน.-สำนักข่าวไทย