26 มี.ค. – ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันมติ อ.ก.พ. มีมติปลดนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ ตามที่ ป.ป.ท. ชี้มูลทำลายทรัพย์สิน เผาบ้าน “ปู่คออี้”
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ อ.ก.พ. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มีมติลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (จังหวัดอุบลราชธานี) โดยการปลดออกจาราชการ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ส่งความเห็นมาให้ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย กรณีนี้จะเป็นบทเรียนให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท โดยนายชัยวัฒน์ยังสามารถอุทธรณ์มติ อ.ก.พ. กระทรวงฯ ไปที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค. หรือฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้
โดยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บอกว่ารู้สึกเห็นใจนายชัยวัฒน์ เพราะเป็นผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่มาตลอด แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องที่ อ.ก.พ. ซึ่งมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน มีมติปลดออกจากราชการ ตามที่ ป.ป.ท. ชี้มูล และให้ลงโทษทางวินัยให้ออกจากราชการ ทั้งนี้ เข้าใจการทำหน้าที่ของผู้บริหารกระทรวงที่เป็นไปตามกฎหมาย แต่เสียใจ เนื่องจากทำหน้าที่ข้าราชการด้วยความทุ่มเทมาตลอด จนจะเกษียณอายุในอีก 3-4 ปีข้างหน้า
หากผู้บังคับบัญชาแจ้งคำสั่งให้ออกจากราชการมาจะอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน รวมทั้งฟ้องศาลปกครองให้พิจารณาการทำงานของ ป.ป.ท. เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรม ยืนยันว่าไม่ได้เผาบ้านปู่คออี้ หรือเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของบิลลี่ตามที่ถูกกล่าวหา
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การที่ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิดตนในฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ม.157 จากข้อกล่าวหาว่า เผาบ้าน “ปู่คออี้” พร้อมบ้านอีก 98 หลังที่บ้านบางกลอยบน และมีมติให้ออกจากราชการ ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจาก ป.ป.ท. สอบสวนโดยมิชอบ ขาดข้อมูลที่เพียงพอ ยืนยันว่ามีหลักฐานสามารถชี้แจงได้ว่าหมู่บ้านของ “ปู่คออี้” อยู่ที่ห้วยสามแพร่ง จ.ราชบุรี ไม่ใช่ที่บ้านบางกลอยบน ส่วนที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุมชาวบ้านในห้วงเวลานั้น เนื่องจากพบกลุ่มคนพกพาอาวุธและยาเสพติด โดยไม่ทราบฝ่ายไหน จึงต้องเผาทำลาย โดยเป็นคนละสถานที่กับหมู่บ้านของปู่คออี้ จึงได้แจ้งความเอาผิดต่อคณะกรรมการ ป.ป.ท.ชุดดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามความผิด ม.157 และ ม.200 วรรคสอง แล้ว โดยจะดำเนินการถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย