กทม.17 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่คงเดินหน้าค้นหา 2 คนงานที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่ถล่มลงมาในซอยสุขุมวิท 87 อย่างระมัดระวัง ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานเสียงล้อมคอก ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาทั้งคืนในการระดมหาผู้สูญหายอีก 2 ราย คือนายไพร คะนุนรัมย์ อายุ 38 ปี และนายบุญแจ้ง เลศละออง อายุ 46 ปี ที่คาดว่ายังคงติดอยู่ในอาคารไทยยานยนต์ มิตซู ซอยสุขุมวิท 87 ความสูง 8 ชั้น ที่พังถล่มลงมาขณะรื้อถอน แม้จะใช้รถเครนยกแผ่นปูนขนาดใหญ่ออกเพื่อค้นหาผู้สูญหายตามจุดที่สุนัขตำรวจเข้าดมกลิ่น แต่ด้วยแผ่นปูนมีขนาดใหญ่ และการใช้เครื่องมือหนักอาจส่งผลต่อตึกด้านข้าง ซึ่งอาจพังถล่มลงมา จึงได้ยุติการค้นหาในเวลา 3 นาฬิกาที่ผ่านมา
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้(17 ธ.ค.) สภาวิศวกร, สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือเพื่อหาแนวทางค้นหาผู้สูญหายอีก 2 คน ที่ยังติดค้างอยู่ภายใน เบื้องต้นจะดูโครงสร้างอาคารเพื่อหาแนวทางในการเคลื่อนย้ายแผ่นปูนออก เนื่องจากคาดว่า 2 คนงาน ติดอยู่ใต้ซากชั้นล่างสุด การจะรื้อแผ่นปูนออกทั้งหมดต้องใช้เวลา และต้องระวังผลกระทบตึกข้างเคียงที่อาจพังซ้ำ
พันตำรวจโทบัณฑิต ประดับสุข ผู้แทนสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ด้านงานปลอดภัยในงานสถาปัตยกรรม เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบ อาคารดังกล่าวไม่มีคานรับน้ำหนักแต่ใช้เป็นลวดสลิงในการต่อเพิ่มแต่ละชั้นแทน หากจะรื้อถอนจะต้องหาอุปกรณ์ค้ำยันเพื่อรับน้ำหนักด้านล่าง แต่เท่าที่เห็น ขณะที่รื้ออาคารไม่มีคานค้ำยัน จึงอาจเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดอาคารถล่ม
ด้านภรรยาและครอบครัวนายบุญแจ้ง พนักงานขับรถแบคโฮ ที่ติดอยู่ในอาคารมานอนเฝ้าที่ด้านหน้าอาคารอย่างมีความหวังว่าสามีจะรอดชีวิต วอนขอให้ค้นหาสามี ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม
ส่วนเรื่องคดี พนักงานสอบสวนได้สอบพยานไปแล้ว 14 ปาก ทั้งญาติผู้เสียชีวิต, ผู้บาดเจ็บ, พยานใกล้เกิดเหตุ, เจ้าหน้าที่โยธาเขตพระโขนง โดยแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 คือกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กับนายสุทธิศักดิ์ ศรีวรรณา กรรมการผู้มีอำนาจดำเนินการ แมกกะทู และนายกฤตัชญ ศรีวรรณา ผู้รับเหมา
นายภัทรุฒิ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนคือต้องค้นหาผู้สูญหายอีก 2 คน แต่ต้องใช้ความระมัดระวังต่อผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะยังมีอาคารด้านข้างที่อาจได้รับผลกระทบและพังลงมาได้อีก จึงใช้ลวดสลิงขึงเพื่อยึดอาคารให้เกิดความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน อุปสรรคของการค้นหาคือ ซากวัสดุอาคารที่กองทับถมกันอยู่หลายชั้น รวมถึงเศษวัสดุแผ่นพื้นที่ห้อยค้างอยู่บนตัวอาคารอาจจะหลุดร่วงลงมาทำให้เกิดอันตรายได้ เบื้องต้น เปลี่ยนจากการใช้รถเครนยกแผ่นปูนออก มาเป็นการเจาะแผ่นปูนทีละแผ่นไปถึงพื้นด้านล่างเพื่อสอดกล้องเพื่อดูว่าจุดนั้นๆมีผู้สูญหายตรงกับตำแหน่งที่สุนัขตำรวจได้ทำสัญญาณไว้หรือไม่ ก่อนจะรื้อแผ่นปูนขึ้นอีกครั้ง จากนี้กรุงเทพมหานคร จะเข้าไปดูแลในสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับบริษัทรื้อถอนอาคารมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา มักจะเกิดเหตุสลดขึ้นจากความไม่ชำนาญ หรือความไม่เข้าใจของผู้ประกอบวิชาชีพ
ด้านศาสตราจารย์อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศกร กล่าวว่า ในการรื้อถอนอาคารที่สูงเกิน 3 ชั้นขึ้นไป จะต้องมีวิศวกรควบคุมการออกแบบและการรื้อถอน เนื่องจากขั้นตอนของการรื้อถอนมีความสำคัญ รวมถึงเครื่องมือและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ อาคารหลังนี้ เป็นโครงสร้างไร้คานที่เสริมสลิงเข้าไป ซึ่งมีความอ่อนแอกว่าอาคารที่มีเสาคานรับน้ำหนัก หากไม่มีความชำนาญในการรื้อถอน เมื่อพื้นอาคารถูกทำลายไปโดยไม่มีอุปกรณ์รองรับน้ำหนัก จะทำให้พังถล่ม ลงมาเหมือน หลังจากนี้จะต้องเรียกวิศวกรผู้ออกแบบควบคุมการรื้อถอนมาสอบสวนถึงสาเหตุ ที่กรุงเทพมหานคร มีหนังสือให้ยุติการรื้อถอน แต่ยังดำเนินการอยู่ หากมีวิศกรเข้าไปเกี่ยวข้อง จะดำเนินการขั้นสูงสุดคือเพิกถอนใบอนุญาต
ขณะที่นายธเนศ วีระศิริ ว่าที่นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. กล่าวว่า จากนี้จะจัดตั้งหน่วยวิศวกรอาสาขึ้นมาเพื่อเข้าไปสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความรู้เจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือผู้ที่ติดอยู่ในอาคารที่ถล่ม เพื่อจะได้ชี้จุด ปลอดภัยหรือมีความเสี่ยงกับผู้ปฏิบัติงาน
เนื่องจากทุกขั้นตอนจะต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างคาดหวัวว่าจะมีผู้รอดชีวิต.-สำนักข่าวไทย