กรุงเทพฯ 11 มี.ค.- ผบช.น. แจง จับผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำมิบังควรต่อสถาบัน และทำลายทรัพย์สินราชการ
พลตำรวจโท ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงกรณีการจับกุมผู้ต้องหาที่ เกี่ยวข้องกับการกระทำอันมิบังควรต่อสถาบัน และทำลายทรัพย์สินราชการ เมื่อวานนี้ว่า ตำรวจชุดสืบสวนได้ จับกุมนายพรชัย วิมลศุภวงศ์ ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายสถาบันฯ และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อหา นำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์มันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หลังก่อเหตุกระทำการหมิ่นสถาบัน ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ไปจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาบริเวณหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ริมถนนรัตนาธิเบศร์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
โดยชุดสืบสวนพบข้อมูลว่าชายคนดังกล่าว ก่อเหตุพ่นสีรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ในการชุมนุมร่วมกับกลุ่มราษฎร และยังพบอีกว่าเป็นผู้เผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ และของสิ่งของที่หน้าศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา นอกจากนี้หลังก่อเหตุทุกครั้งนายพรชัย ยังนำภาพและคลิปวีดีโอลงเผยแพร่ใน facebook โดยใช้ชื่อว่า มาริโอ้ ชินร์เซ (Mario Chinrxe) ทั้งเหตุการณ์ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แล้วยังพบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวยังเคยกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันที่จังหวัดยะลา เบื้องต้นผู้ต้องหา รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ให้การใดๆ จึงนำตัวส่งดำเนินคดี ตามหมายจับที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯทั้ง2 แห่ง ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ไปขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ หากได้รับหมายจับก็อายัดตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนคดีนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ the bottom blues ผู้ต้องหาคดีเผาทำลายทรัพย์สินราชการ หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ที่ ล่าสุด ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ไปขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน เป็นหญิงคนสนิทของแอมมี่ ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายสถาบัน นอกจากนี้ยังออกหมายเรียกผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน มาให้ปากคำแล้ว ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาและผู้ที่ถูกออกหมายเรียก มีพฤติการณ์หลบหนี ชุดสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลอยู่ระหว่างการติดตามตัว
และคดีของนาย พิเชษฐ์ ขุนกำแหง ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจสน. ปทุมวัน จับกุมตัวได้ พร้อมวัตถุระเบิดแรงดันต่ำ เกือบ 20 ลูก ดินปืน สะเก็ดระเบิด และปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ทำเอง ขณะขับรถส่ายไปมากลางแยกปทุมวันนั้น ล่าสุด แพทย์ได้ส่งผลการตรวจสอบมาแล้วว่า ผู้ต้องหามีความผิดปกติจริง อีกทั้งข้อมูลที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างมายังให้การวกวน ตรวจสอบข้อมูลไปยังต้นสังกัด ที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างถึง ก็ไม่พบว่าเป็นบุคคลในสังกัด อีกทั้งยังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งประเด็นที่หลายฝ่ายสงสัยจะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมต่างๆหรือไม่นั้น เบื้องต้นตรวจสอบของกลางที่ตรวจยึดได้พบว่า คล้ายคลึงกันในเรื่องดินปืนแรงดันต่ำ สะเก็ดระเบิด กับเหตุการณ์รุนแรงหลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพ แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึงบางเหตุการณ์อย่างเช่น เหตุปาระเบิดใส่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน ที่สามย่านมิตรทาวน์ คดีนั้นจับกุมผู้ต้องหาได้ และจากการตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี ไม่มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้ชุดสืบสวน จะไล่ตรวจสอบข้อมูลและรอผลการตรวจสอบวัตถุพยานต่างๆเพื่อหาความเชื่อมโยงไปยังคดีอื่นๆที่เคยเกิดขึ้นในกรุงเทพฯและปริมณฑล – สำนักข่าวไทย