เชียงใหม่ 8 มี.ค.- หลายจังหวัดทางภาคเหนือยังเผชิญหมอกควันและฝุ่นพิษ โดยที่เชียงใหม่ยังติดอันดับเมืองที่มีอากาศแย่สุด 1 ใน 3 ของโลก ส่วนที่แม่ฮ่องสอนฝุ่นพิษทะลุ 300 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรแล้ว
สภาพอากาศทั่วเมืองเชียงใหม่ตลอดช่วงเช้ายังเต็มไปด้วยหมอกควันจากไฟไหม้ป่าปกคลุมไปทั่วเมือง จนแทบมองไม่เห็นดอยสุเทพ ซึ่งเป็นดัชนีที่วัดด้วยสายตา ถึงปริมาณหมอกควันที่ปกคลุม ประชาชนเริ่มมีอาการแสบจมูกและแสบตา หลังค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 หรือฝุ่นพิษเกินมาตรฐานมาหลายวัน โดยช่วง 09.00 น.ที่ผ่านมา ข้อมูลจากเว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ พบฝุ่นพิษ PM2.5 ในตัวเมืองเชียงใหม่ยังเกินมาตรฐานถึงขั้นกระทบต่อสุขภาพหลายจุดอย่างที่ตำบลช้างเผือกวัดได้ 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากมาตรฐานที่กำหนดไม่เกิน 50 ไมโครกรัม และจากการจัดอันดับคุณภาพอากาศ 50เมืองใหญ่ทั่วโลกของเว็บไซต์ www.airvisual.com วันนี้เชียงใหม่ยังติดอันดับเมืองใหญ่ที่มีคุณภาพอากาศแย่ 1 ใน 3 ของโลก หลังขึ้นเป็นอันดับ 1 เมืองที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุดติดต่อกัน 2 วัน
เช่นเดียวกับรายงานการวัดค่าฝุ่นพิษ PM2.5 หลายจังหวัดทางภาคเหนือที่เกินค่ามาตรฐาน ทั้งอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายวัดได้ 168 ไมโครกรัม ตำบลพระบาท ที่เมืองลำปาง 117 ไมโครกรัม และพบสูงสุดที่ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่นพิษสูงสุดถึง 329 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่ามาตรฐานไปถึง 6 เท่าตัว สาเหตุส่วนใหญ่ยังเกิดจากไฟไหม้ป่า หลังจากเมื่อวานนี้พบจุดความร้อนจากการเผาใน 17 จังหวัดภาคเหนือ มากกว่า 1,521จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่า.-สำนักข่าวไทย