“ก้าวไกล” เปิดรายงานสถานการณ์ไฟป่า-ฝุ่นพิษ ’67 พร้อมข้อเสนอถึงรัฐบาล

เชียงใหม่ 10 พ.ค. – “ก้าวไกล” เปิดรายงานสถานการณ์ไฟป่า-ฝุ่นพิษ ’67 พร้อมข้อเสนอถึงรัฐบาล ยก 4 องค์ประกอบจำเป็นแก้ไฟป่า อาสาสมัคร-เทคโนโลยี-งบประมาณเพียงพอทั่วถึง-มาตรการกฎหมายทันกาล “พิธา” ยินดีหากรัฐบาลนำไปใช้ แนะควรมีโรดแมปป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย


วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ที่ SOL Bar จ.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล, เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center, ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ เขต 8, ฐากูร ยะแสง สส.เชียงราย เขต 3, อรพรรณ จันตาเรือง สส.เชียงใหม่ เขต 6 และ วิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน เขต 1 ร่วมแถลง “เปิดรายงานก้าวไกล สถานการณ์ไฟป่า-ฝุ่นพิษ’67 และข้อเสนอต่อรัฐบาล” เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ดับไฟป่า แถลงผลการดำเนินงาน และข้อเสนอเชิงนโยบาย

พิธากล่าวว่า วันนี้เป็นการมาตามงาน แม้สถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นพิษจะดูเบาบางลง ฟ้าใสมากขึ้น แต่จะมีอะไรเป็นหลักประกันว่าปีหน้าจะไม่แย่กว่าปีนี้ พรรคก้าวไกลไม่ได้ทำงานเพียงเพราะปัญหานี้อยู่ในกระแสข่าว พอหมดกระแสก็เลิกทำ ที่ผ่านมาเราได้ตั้งคำถามกับรัฐบาลว่ารู้อยู่แล้วว่าปัญหาต้องเกิดขึ้น แล้วจะปล่อยให้ประชาชนทรมานไปทุกปีได้อย่างไร รัฐบาลควรมีโรดแมปเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็ต้องมีโรดแมปเพื่อเอาไว้เปรียบเทียบเช่นกัน และยินดีถ้ารัฐบาลนำข้อเสนอของเราไปใช้เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่วันนี้กลายเป็นทั้งปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาสาธารณสุข เราหวังว่าการแถลงวันนี้จะเป็นการติดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้อง


หลังจากนั้น เดชรัตเปิดรายงานสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นพิษปี 2567 กล่าวว่า โดยรวมแล้วปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 ในปีนี้ยังรุนแรงหลายพื้นที่ นอกจากกรุงเทพฯ และภาคเหนือตอนบน ยังลามไปภาคเหนือตอนล่าง ที่เริ่มได้รับผลกระทบยาวนานมากขึ้น และภาคอีสาน เช่น หนองคาย อุบลราชธานี โดยขณะนี้มีภาคเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบคือภาคใต้

สำหรับภาคเหนือ มีหลายจังหวัดที่สถานการณ์รุนแรงกว่า จ.เชียงใหม่ ซึ่งมักได้รับความสนใจจากรัฐและสื่อมวลชนอยู่แล้ว เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำปาง ยกตัวอย่างพื้นที่สีม่วง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นพิษเกิน 4 เท่าของค่ามาตรฐานหรือ 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากข้อมูลตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ถึง 30 เมษายน 2567 เช่น แม่ฮ่องสอน อ.เมือง มีวันที่เป็นสีม่วงถึง 14 วัน เชียงราย อ.แม่สาย 12 วัน อ.เชียงของ 8 วัน เป็นต้น

ความจริงแล้วตามเกณฑ์ของรัฐบาล ถ้าสีม่วงติดกัน 5 วันต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ แต่ปีนี้แม้มีพื้นที่ที่เข้าข่ายแต่กลับไม่มีการประกาศแต่อย่างใด จึงสังเกตได้ว่าพื้นที่ที่มีความรุนแรงมักติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้แม้ในช่วงเวลาที่ฝั่งประเทศไทยแทบไม่มีจุดความร้อน แต่เชียงรายก็ยังเป็นสีม่วง ค่อนข้างชัดเจนว่าเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยทำเฉพาะภายในประเทศ จำเป็นต้องมี พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน ที่ก้าวไกลยื่นเข้าสภาฯ แล้ว ขณะนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ


เดชรัตกล่าวต่อว่า สรุปปัญหาในปีนี้ยังหนักและกระจายหลายพื้นที่ บางพื้นที่ที่รัฐบาลดูแล ความรุนแรงอาจลดลง แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ไม่ได้รับการดูแล จึงอยากให้มีการดูแลที่ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้พรรคก้าวไกลพบว่าเมื่อเทียบ 3 มาตรการที่ต่างกัน คือ (1) การห้ามเผา ถ้าดูแลได้ดีก็ให้ผลดี แต่ต้องระวังว่าจะทำให้จุดความร้อนเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนและหลังช่วงเวลาห้ามเผา (2) การชิงเผา มักถูกมองในแง่การจัดการเชื้อเพลิง แต่มีเรื่องที่ต้องระวังคือ บางช่วงการชิงเผาไปเกิดใกล้ช่วงที่มีฝุ่นเยอะ สุดท้ายจึงไม่ได้ลดปริมาณฝุ่น และบางครั้งอาจทำให้เกิดการลุกลาม รวมถึงถ้าทำบ่อยๆ อาจทำให้ความสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ลดลง (3) การทำแนวกันไฟ เรามองว่าคือแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะจะช่วยตีวงการเผาให้อยู่ในขอบเขตที่เล็ก ควบคุมได้ เดินทางเข้าไปง่าย แต่ปัญหาที่เราเจอในช่วงที่ผ่านมาคือมีการเริ่มต้นทำช้า ปีหน้าต้องทำให้เร็วขึ้น จำกัดวงของไฟให้เล็กที่สุด

นอกจากนี้ สส. ได้แบ่งปันประสบการณ์การทำงานในพื้นที่ เช่น วิทวิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับ จ.ลำพูน สถิติการเกิดจุดความร้อนอยู่ในพื้นที่เขตป่า 2,546 จุด นอกเขตป่า 274 จุด อุปกรณ์ที่จำเป็นมากเช่นโดรน วิทยุสื่อสาร เครื่องเป่าลม สำหรับพื้นที่ที่เกิดไฟป่าแบ่งเป็น 3 จุด คือไฟใต้ดิน ไฟผิวดิน และไฟเล็มยอด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีป่าไผ่และเถาวัลย์จำนวนมาก ทำให้เกิดไฟป่าที่มีความสูงและเป็นอันตราย ไม่สามารถที่จะเข้าดับไฟได้ ทั้งนี้ข้อสังเกตระหว่างการทำงาน คือเนินธรรมชาติเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้การทำแนวกันไฟมีประสิทธิภาพ

หลังจากนี้ จ.ลำพูน จะเดินหน้าทำงานต่อ แบ่งเป็น 7 ส่วนคือ (1) เลือกพื้นที่เป้าหมายและสำรวจเส้นทาง (2) ทำแคมเปญรับบริจาค (3) รับสมัครอาสาสมัคร (4) ทำแนวกันไฟอย่างมีประสิทธิภาพ (5) ส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องการดูแลรักษาป่า (6) การจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีอื่นๆ เป็นการใช้กลยุทธ์ย่อยสลายใบไม้ และ (7) ตั้งศูนย์อำนวยการเฝ้าระวังไฟป่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน

ด้านภัทรพงษ์กล่าวถึงความล่าช้าในการจัดการปัญหา PM 2.5 ทั้งในและนอกประเทศ ว่าปัญหาอย่างแรกคือการขาดแคลนงบประมาณ เช่นงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 จัดออกมาไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหา นายกฯ บอกว่าจะใช้งบกลาง แต่จนถึงวันนี้ มีการจัดสรรน้อยมากและล่าช้า ทั้งที่ถ้ารัฐบาลเห็นปัญหาอยู่แล้ว งบกลางไม่จำเป็นต้องมารอในเดือนมีนาคม ควรทำได้เร็วกว่านั้น จึงสะท้อนว่ารัฐบาลไม่ได้เข้าใจปัญหานี้อย่างถ่องแท้

ปัญหาต่อมาคือการจัดซื้ออุปกรณ์ ที่มีการระบุไว้ชัดเจนว่าซื้ออะไรได้หรือไม่ได้ ที่ซื้อได้เช่นถุงมือดับไฟ ถังฉีดน้ำ หน้ากากป้องกันควัน แต่ห้ามจัดซื้อครุภัณฑ์ เช่น เครื่องเป่าลม ทั้งที่บางอุทยานมีแค่ 4 เครื่องแต่ต้องรับผิดชอบพื้นที่เป็นแสนไร่ แสดงให้เห็นว่ารัฐไม่เข้าใจสภาพปัญหาหน้างานและการทำงานของเจ้าหน้าที่ ให้เงินท้องถิ่นแต่กลับกำหนดกรอบทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ภัทรพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นพิษไม่มีพรมแดน พรรคก้าวไกลได้เสนอแนะมาตลอดเรื่องประกาศนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปลอดภาษี เราเสนอไว้ชัดเจนว่าประกาศต้องมีอะไรบ้าง เช่น แปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผู้นำเข้าต้องระบุละติจูดลองจิจูดว่ามาจากที่ไหน เพื่อให้สามารถนำข้อมูลดาวเทียมมาตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีที่มาจากการเผาหรือไม่ และเรายังเสนอว่าสามารถห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ดังกล่าวได้ ทำได้ทันที ไม่ต้องกฎหมายอากาศสะอาด แต่ทุกอย่างกลับถูกรัฐบาลเพิกเฉยอย่างน่าผิดหวัง ดังนั้นปีนี้ เราหวังว่าจะได้เห็นความคืบหน้าในประกาศนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 68 หวังว่ารัฐบาลจะนำสิ่งที่พรรคก้าวไกลสะท้อนไปแก้ไข

ช่วงท้ายเดชรัตสรุปว่า บทเรียนที่พรรคก้าวไกลได้รับจากปี 2567 สิ่งที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหาไฟป่าประกอบด้วย 4 อย่าง หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วทันการณ์ คือ (1) อาสาสมัคร เป็นหัวใจสำคัญที่สุด ต้องมีทักษะ ความรู้ ความชำนาญ และสวัสดิการ (2) อุปกรณ์เทคโนโลยี (3) งบประมาณต้องกระจายทั่วถึงทุกจุดที่มีปัญหาและมีความเพียงพอ และ (4) มาตรการและกฎหมายต้องออกมาอย่างทันการณ์

ส่วนสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้การรับมือไฟป่าฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2568 มีประสิทธิผลเพียงพอ ประกอบด้วย (1) Economy of Scale คือทำให้มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสงวน ต้องมีแรงจูงใจที่เพิ่มขึ้นสำหรับเกษตรกรที่ไม่เผา (2) Economy of Scope ทำในทุกมิติและหารือทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง เช่น การดูแลฝุ่นพิษข้ามพรมแดน และ (3) Economy of Speed ทำให้รวดเร็วยิ่งขึ้น งบประมาณเร็วขึ้น กำหนดมาตรการเร็วขึ้น . – 312 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย