กทม.5มี.ค.-สมาคมมัคคุเทศก์ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม หลังไกด์ตกงานเกือบ 10,000 คน เข้าไม่ถึงการอบรมเปลี่ยนไปถือบัตรรูปแบบใหม่ ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล
นายทิพากร จันทร์แถม นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทย นำตัวแทนมัคคุเทศก์ เข้ายื่นหนังสือร้องความเป็นธรรม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 กรณีถูกรอนสิทธิของผู้ถือบัตรอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ โดยกรมการท่องเที่ยวกำหนดให้ยกเลิกบัตรอนุญาตมัคคุเทศก์สีทอง ซึ่งเป็นบัตรอนุญาตสำหรับปฏิบัติหน้าที่กับนักท่องเที่ยวคนไทยภายในประเทศ แล้วให้โอนไปอยู่รวมกับบัตรอนุญาตสีบรอนซ์ ซึ่งเป็นบัตรอนุญาตสำหรับมัคคุเทศก์ที่ปฏิบัติหน้าที่กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ปี2559 แต่กรมการท่องเที่ยวไม่ประกาศแจ้งการเปลี่ยนการถือประเภทบัตรมัคคุเทศก์ให้เจ้าตัวรับทราบ และไม่จัดอบรมเพิ่มเติมให้อย่างทั่วถึงเพื่อเปลี่ยนผ่าน ทำให้ผู้ที่ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ บัตรสีทอง ประเภท (นักท่องเที่ยวคนไทย) และบัตรสีชมพู ประเภททัวร์เฉพาะท้องที่ ไม่สามารถต่อบัตรอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ได้ ทำให้หมดสภาพการเป็นมัคคุเทศก์ทันที และหากต้องได้บัตร ต้องทำการอบรมใหม่ เสียค่าอบรมเป็นมัคคุเทศก์ราคากว่า 40,000 บาทต่อคน ทั้งที่ 1 ปีที่ผ่านมาก็ได้รับความลำบากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่แล้ว สร้างความเดือดร้อนซ้ำเติมอีก ซึ่งตอนนี้ต้องเปลี่ยนอาชีพไปทำไร่ และขายของเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ น.ส.นันท์นภัส น้อยวิเศษ ตัวแทนกลุ่มมัคคุเทศก์ กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านจากใบอนุญาตมัคคุเทศก์สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทย ให้ไปถือบัตร สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และต้องผ่านเกณฑ์ด้านภาษา ถือว่า ไม่เป็นธรรม เพราะ มัคคุเทศก์ถือบัตรสีทอง รับนักท่องเที่ยวไทยอยู่แล้ว เป็นการตัดโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมถึง การจัดอบรมเพื่อเปลี่ยนผ่านไปยังบัตรรูปแบบใหม่ ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเพียงแค่5 วัน เป็นเวลาที่รวดเร็วเกินไป ไม่มีการส่งใบแจ้ง วันหรือเวลาไปให้มัคคุเทศก์ แต่ให้ติดตามเองทางเว็ปไซต์ของกรมการท่องเที่ยว ทำให้มีมัคคุเทศก์เข้าไม่ถึง กว่า 10,000 คน จากจำนวนมัคคุเทศก์ที่ถือบัตรสีทองและชมพู 18,000 คน จึงอยากเรียกร้องให้ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ช่วยเป็นตัวกลางเพื่อคุยกับกรมการท่องเที่ยวในการช่วยเหลือให้มัคคุเทศก์เข้าถึงการอบรมได้ทัน.-สำนักข่าวไทย