กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – หอการค้าไทยประเมินเศรษฐกิจปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นอีกร้อยละ 0.5 จากกรอบเดิมคาดการณ์ไว้ร้อยละ 3.5-4 หลังรัฐบาลเพิ่มนโยบายสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ตามกรอบเดิมที่ร้อยละ 3.5 – 4 และการส่งออกกลับมาขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 0 -2 จากปีนี้ที่น่าจะขยายตัวในกรอบร้อยละ 3.3 – 3.5 การส่งออกน่าจะติดลบร้อยละ 1 – 0 โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการใช้จ่าย และการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายโครงการของภาครัฐ
สำหรับสิ่งที่ต้องติดตาม คือ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะผลจากนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ความเสี่ยงทางการเมืองในภูมิภาคยุโรป และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้รัฐบาลมีแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะการจัดสรรเพิ่มให้กับ 18 กลุ่มจังหวัด จำนวน 100,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ภาคเอกชน ท้องถิ่น รวมถึงประชาสังคมมีส่วนในการจัดทำงบประมาณแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด เพื่อให้การกระจายลงกลุ่มจังหวัดมีประสิทธิภาพ โดยดึงศักยภาพและยกระดับทางที่เป็นศูนย์กลางของแต่ละภูมิภาคให้ทัดเทียมกับกรุงเทพมหานคร แต่รัฐบาลจะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใสสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนการกำหนดเป้าหมายการกระจายงบประมาณ 4 ด้านหลัก ได้แก่ เกษตรกรรม การค่าการลงทุน โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยวชุมชนนั้น มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาศักยภาพของกลุ่มจังหวัดให้มีความยั่งยืนด้วยตัวเองและเติบโตทัดเทียมกรุงเทพมหานคร โดยขณะนี้มีกลุ่มจังหวัดเสนอโครงการเข้ามาแล้วกว่า 83,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเกษตร 25,000 ล้านบาท, ท่องเที่ยวชุมชน 32,000 ล้านบาท, การค้าการลงทุนและการค้าชายแดน 7,900 ล้านบาท, และโลจิสติกส์ 18,200 ล้านบาท โดยการพิจารณาจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม 2559 เนื่องจากรัฐบาลเร่งให้ดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้งบประมาณออกได้ในช่วงเดือนมีนาคมปี 2560 ผ่านการจัดซื้อจัดจ้าง และมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบจริงในช่วงกลางปี 2560
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น การเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อย 10,000 – 12,000 ล้านบาท , มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในประเทศ 5,000 – 10,000 ล้านบาท , มาตรการช้อปช่วยชาติ 10,000 – 20,000 ล้านบาท , และมาตรการชะลอการขายข้าวอีก 10,000 – 15,000 ล้านบาทนั้น หอการค้าไทยเชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 มาอยู่กรอบที่ร้อยละ 4 – 4.5 แต่ฐบาลจะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใสสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี หอการค้าไม่กังวล เนื่องจากเป็นเพียงการสลับตำแหน่ง ขณะที่ผู้ออกนโยบายทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่สำคัญไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน จึงไม่ส่งผลต่อนโยบายการบริหารประเทศให้มีการเปลี่ยนแปลง เพียงแต่มีความเป็นห่วงคณะทำงานประชารัฐที่ดำเนินโครงการไปก่อนหน้านี้ ซึ่งต้องมีการปรับการทำงานร่วมกันใหม่ .-สำนักข่าวไทย