กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – สสว.เชื่อปีนี้จีดีพีเอสเอ็มอีโตร้อยละ 5.1 ส่วนปีหน้าเพิ่มเป็นร้อยละ 5-5.5 แซงหน้าจีดีพีประเทศที่โตร้อยละ 3-3.5 แต่โตในกลุ่มเอสเอ็มอีที่อยู่ในยุค 3.0-3.5
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สรุปผลดำเนินงานปี 2559 ว่า ภาพรวม 3 ไตรมาสแรกปี 2559 จีดีพีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีมูลค่า 4.4 ล้านล้านบาท มีอัตราการเติบโตสูงกว่าอัตราเติบโตของประเทศ โดยโตร้อยละ 5.1 ขณะที่ประเทศเติบโตร้อยละ 3.2-3.5 มีสัดส่วนต่อจีดีพีประเทศคิดเป็นร้อยละ 42 แรงขับเคลื่อนสำคัญจากภาคบริการที่เติบโตดีร้อยละ 6.6 โดยเฉพาะธุรกิจด้านท่องเที่ยว โรงแรม และภัตตาคาร การขนส่ง ส่วนภาคการค้าเติบโตร้อยละ 5.3 สำหรับภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ยังคงมีการขยายตัวค่อนข้างต่ำร้อยละ 0.9 โดย สสว.คาดว่าจีดีพีเอสเอ็มอีปี 2559 น่าจะขยายตัวร้อยละ 5.0-5.5
สำหรับภาพรวมเอสเอ็มอีตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2559 เอสเอ็มอีกลุ่มนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ 42,755 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.6 และยกเลิกกิจการ 8,539 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 16.3 ส่วนปี 2560 ภาพรวมงบบูรณาการช่วยเหลือเอสเอ็มอี รวมทุกหน่วยงาน รวมทั้ง สสว.มีจำนวนรวม 6,700 ล้านบาท คาดว่าจะมีเอสเอ็มอีได้รับประโยชน์มากกว่า 100,000 ราย อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าเอสเอ็มอี มีโอกาสเติบโตดีกว่าภาพรวมการเติบโตเฉลี่ยของประเทศ เพราะส่วนใหญ่อยู่ในภาคการค้า โดยคาดว่าจีดีพีเอสเอ็มอีจะโตเพิ่มเป็นร้อยละ 5-5.5 แซงหน้าจีดีพีประเทศที่โตร้อยละ 3-3.5 อย่างไรก็ตาม เอสเอ็มอีที่มีมากกว่า 2.76 ล้านราย การเติบโตจะอยู่ในยุค 3.0-3.5 แต่ สสว.จะมุ่งยกระดับกลุ่มเอสเอ็มอีที่ระดับการพัฒนาต่ำกว่าให้มีระดับความคิดสร้างสรรค์ มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีในระดับที่สูงขึ้น
ส่วนการดำเนินงานปี 2559 ได้รับงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี ด้านต่าง ๆ 5,042 ล้านบาท เอสเอ็มอีได้รับประโยชน์กว่า 180,000 ราย เป็นการช่วยเหลือ 3 ด้าน โดยงบประมาณส่วนใหญ่เน้นด้านแรก การฟื้นฟู (เอสเอ็มอี) โดยเฉพาะที่ สสว.รับผิดชอบ 3 โครงการ คือ โครงการฟื้นฟูให้ดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างมั่นคง งบประมาณ 3,360 ล้านบาท ตั้งเป้ามีเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการ 10,000 ราย แต่มีเอสเอ็มอีเข้าร่วมจริงถึง 15,000 ราย ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดามากกว่านิติบุคคล โครงการเงินทุนพลิกฟื้นวิสาหกิจขนาดย่อม 1,000 ล้านบาท สสว.ร่วมกับธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) และสมาคมธนาคารไทยพิจารณาคำขอวงเงินช่วยเหลือ โดยจากการดำเนินงานในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้ (ต.ค.ถึง 15 ธ.ค.) พิจารณาวงเงินช่วยเหลือแล้ว 72.43 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ทั้งหมดภายในสิ้นปี 2560 และมาตรการฟื้นฟูเอสเอ็มอี วงเงิน 2,000 ล้านบาท เริ่มวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สสว.อยู่ระหว่างนำเสนอระเบียบ หลักเกณฑ์ช่วยเหลือต่อนายกรัฐมนตรีผ่านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาลงนาม
ด้านที่ 2 ช่วยเหลือเอสเอ็มอีรองลงมา คือ ด้านการส่งเสริมเอสเอ็มอี ให้เติบโตและมีนวัตกรรม งบประมาณรวม 1,162 ล้านบาท ผ่าน 14 โครงการ ด้านที่ 3 การบ่มเพาะเอสเอ็มอี รายใหม่ งบประมาณ 250 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ หรือ Start up งบประมาณ 200 ล้านบาท โดย สสว.ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง มีผู้เข้าร่วมโครงการ 10,797 ราย ขณะนี้ผ่านขั้นตอนทำแผนธุรกิจแล้ว 4,514 ราย หากแผนธุรกิจเป็นไปได้ สสว.จะพาออกทดสอบตลาดต่อไป ส่วนอีกโครงการคือ Start up Voucher ดำเนินการโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สสว.สนับสนุนงบประมาณ 50 ล้านบาท มีเอสเอ็มอี ได้รับ Voucher แล้ว 53 ราย. – สำนักข่าวไทย