สสว.คาดจีดีพีเอสเอ็มอีปีนี้โตร้อยละ 5.5

กรุงเทพฯ 8 มี.ค. – สสว.คาดจีดีพีเอสเอ็มอีปีนี้โตร้อยละ 5-5.5 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมจัดงบบูรณาการ 3,800 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาเอสเอ็มอีสู่ธุรกิจ 4.0 ภายใต้นโยบาย “พลิกเอสเอ็มอีสู่อนาคต” คาดสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 90,000 ล้านบาท


นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.ประเมินว่าการเติบโตจีดีพีเอสเอ็มอีไตรมาสแรกปี 2561 จะขยายตัวร้อยละ 5.1 และทั้งปีจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 5-5.5  สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการจัดทำ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.1 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสาขาการก่อสร้างที่มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวสูงอีกครั้งจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการปีนี้อีกครั้ง รวมทั้งแนวโน้มการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อการค้าและภาคบริการที่ เอสเอ็มอีมีบทบาทอยู่มาก

สำหรับจีดีพีเอสเอ็มอีไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 6.1 สูงสุดในรอบ 11 ไตรมาส ส่งผลให้ตลอดปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 5.1 สูงกว่า สสว.ประเมินไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 5 แม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าลดลง จีดีพีเอสเอ็มอีมีมูลค่ากว่า 6.55 ล้านบาท มีสัดส่วนต่อจีดีพีประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 42.2 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วนที่เป็นร้อยละ 42.1 ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การเติบโตของภาคการค้าและภาคบริการเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเอสเอ็มอีมีบทบาทค่อนข้างสูง โดยสาขาธุรกิจที่ขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อน ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 ธุรกิจการขนส่งและการคมนาคมร้อยละ 8.9 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ร้อยละ 5.6 รวมทั้งภาคการค้าปลีกค้าส่งขยายตัวเร่งขึ้น จากร้อยละ 6.4 เป็นร้อยละ 6.9 ในไตรมาสสุดท้ายปี 2560 


นายสุวรรณชัย กล่าวว่า ปีนี้ สสว.เป็นเจ้าภาพจัดทำงบประมาณลักษณะบูรณาการด้านการส่งเสริมเอสเอ็มอีของประเทศต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยประสานความร่วมมือกับ 25 หน่วยงาน เพื่อเดินหน้าแผนบูรณาการขับเคลื่อนเอสเอ็มอีปี 2561 ด้วยวงเงินของ สสว. 1,229 ล้านบาท และเมื่อบูรณาการกับ 25 หน่วยงาน ทำให้มีงบรวม 3,810.41 ล้านบาท โดยจะดำเนินการภายใต้นโยบายพลิกเอสเอ็มอีสู่อนาคต คือ รูปแบบธุรกิจเอสเอ็มอี 4.0 และเชื่อมโยงฐานรากระดับชุมชน โดยใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือขับเคลื่อน มีผู้ประกอบการได้รับประโยชน์รวม 331,315 คน โดยภาพรวมตั้งเป้าหนุนเอสเอ็มอี สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้ 90,000 ล้านบาท

สำหรับการขับเคลื่อนดำเนินการ 4 แนวทาง ประกอบด้วย 1.สร้างและพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นและผู้ประกอบการรายใหม่หรือ Start Up วงเงิน 1,266.53 ล้านบาท ตั้งเป้าเตรียมความพร้อมสู่การเป็นเอสเอ็มอี 34,000 คน สร้างและพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นที่มีมูลค่าสูง 7,800 กิจการ  2.ส่งเสริมเอสเอ็มอีกลุ่มทั่วไปให้มีศักยภาพมากขึ้นและให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหาทางธุรกิจวงเงิน 1,086.16 ล้านบาท ตั้งเป้าพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่ม 5,800 กิจการ เอสเอ็มอีรับการพัฒนาประสิทธิภาพการทำธุรกิจ 32,000 กิจการ ผ่านการรับรองมาตรฐาน 115 กิจการ เชื่อมโยงคลัสเตอร์ 44 เครือข่าย เอสเอ็มอีได้รับการส่งเสริมการตลาด 52,000 กิจการ และมีความพร้อมฟื้นฟูกิจการ 2,500 กิจการ

3.ส่งเสริมเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพให้มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นวงเงิน 1,028.93 ล้านบาท ตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 2,000 กิจการ ได้รับการพัฒนามาตรฐานระดับสากล 400 กิจการ และขยายโอกาสทางการตลาดระดับสากล 5,600 กิจการ และ 4.พัฒนาปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจเพื่อการส่งเสริมเอสเอ็มอี ( Ecosystem) 428.77 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย