ลุงเมาหัวร้อนยิง รปภ.ดับ เหตุไม่ให้ผ่านทาง

เชียงใหม่ 28 ก.พ. – ลุงวัย 68 เมาหัวร้อน ยิงหนุ่ม รปภ. เสียชีวิตกลางถนนในหมู่บ้านจัดสรร อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เหตุไม่พอใจหนุ่ม รปภ. ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปถึงบ้านเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหาย หลังขับรถยนต์ชนไม้กั้นป้อมยามทางเข้าหมู่บ้านจัดสรรเสียหาย ก่อนให้ญาติประะสานเข้ามอบตัว อ้างแย่งปืนกันจนปืนลั่น


ตำรวจ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงหนุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านแห่งหนึ่งเสียชีวิตกลางถนนในหมู่บ้านศรีจุม ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านที่หนุ่ม รปภ. ทำงานไปทางทิศเหนือประมาณ 500 เมตร ที่เกิดเหตุพบศพนายจัตตุพล อาราม อายุ 38 ปี ถูกกระสุนปืนที่หน้าผาก ลำคอ นอนหงายเสียชีวิตกลางถนน

นายชำนาญ ทนันชัย ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่านาทีชีวิตว่า พบผู้เสียชีวิตระหว่างทางขณะกำลังขี่รถจะกลับบ้าน จึงจอดรถสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้เสียชีวิตบอกว่าผู้ก่อเหตุ วัย 68 ปี จะขับรถผ่านหมู่บ้านจัดสรรเป็นทางลัดกลับบ้าน พนักงาน รปภ. ขอดูบัตรและไม่ให้เข้าตามมาตรรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ผู้ก่อเหตุไม่พอใจและอยู่ในอาการเมาสุรา ได้ขับรถยนต์ชนไม้กั้นทางเข้าหมู่บ้าน หนุ่ม รปภ. จึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามผู้ก่อเหตุ จนถึงบ้านเพื่อจะให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ใช้มีดไล่ฟันหนุ่ม รปภ. วิ่งหนีทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้หน้าบ้านผู้ก่อเหตุ จนไปเจอกับนายชำนาญ ซึ่งรู้จักกับผู้ก่อเหตุ อาสาพาไปเอารถจักรยานยนต์ แต่ไม่คาดคิดว่ามาถึงที่เกิดเหตุจะมาเจอกับผู้ก่อเหตุปั่นจักรยานกลับมา ก่อนชักปืนลูกซองพร้อมขึ้นนกจะยิงนายชำนาญซึ่งรู้จักกัน นายชำนาญจึงบอกว่าเป็นนายชำนาญ ผู้ก่อเหตุจึงเอาปืนลง แต่จู่ๆ เมื่อเห็นหนุ่ม รปภ. เดินมาข้างหลัง จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงหนุ่ม รปภ. จนล้มลงเสียชีวิต และผู้ก่อเหตุจะเปลี่ยนบรรจุกระสุนปืนใหม่ จึงเข้าแย่งปืนไว้ได้ จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงวิ่งหนีเข้าบ้านห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ตนเองจึงนำปืนไปซุกไว้ใต้เสาไฟฟ้าข้างทาง ส่วนซองปืนตกกลางถนน


เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุจึงเข้าควบคุมพื้นที่ จากนั้นไม่นานผู้ก่อเหตุให้ญาติมาแจ้งกับตำรวจขอมอบตัว เจ้าหน้าที่จึงไปควบคุมตัวที่บ้าน ซึ่งผู้ก่อเหตุยังอยู่ในอาการมึนเมาสุรา และอยู่ระหว่างนำตัวไปสอบปากคำและชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุยังไม่การไม่ตรงกับคำบอกเล่าของพยาน อ้างว่ามีการแย่งปืนกันจนปืนลั่น ทางตำรวจจะสอบข้อเท็จจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก