จับ 2 คดีฉ้อโกง มูลค่าเสียหายเกือบ 500 ล้าน

กทม. 10 ก.พ.- ตำรวจจับผู้ต้องหาหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุน 2 คดี มูลค่าเสียหายเกือบ 500 ล้านบาท เร่งตามผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุม


พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุมคดีที่เกี่ยวกับการการฉ้อโกงประชาชน

คดีแรกสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คดีนี้ผู้ต้องหาหลอกลวงผู้เสียหายลงทุนผ่านเกมส์ Lucky Doka โดยให้ผู้เสียหายสมัครลงทุนซื้อสุนัขในเกมส์จำนวน 5 ชนิดโดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อเปิดบัญชี หลังจากนั้นจะแนะนำให้ขายสุนัขต่อให้ผู้อื่นผ่านระบบเกมส์ โดยชี้ชวนว่าผู้เสียหายจะได้กำไรร้อยละ 8 ถึงร้อยละ 40 จากการขายสุนัขต่อให้กับสมาชิกคนอื่นๆ ขณะเดียวกันผู้ต้องหาจะเพิ่มจำนวนสุนัขเข้ามาในระบบและตั้งราคาเองและราคาจะแพงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้เงินจำนวนมากก็จะปิดระบบหนี


คดีนี้มีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันเข้าร้องต่อศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน และอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 1 คน เบื้องต้นถูกตั้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ และร่วมกันกู้เยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ซึ่งหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนธุรกิจในเครือบริษัท SCG Capital ในชื่อธุรกิจ S Club  มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 400 คน มูลค่าเสียหายเกือบ 400 ล้านบาท โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ชักชวนให้เข้าร่วมสัมมนาและหลอกให้ร่วมลงทุนซึ่งเป็นบริษัทที่พาลูกค้าไปเดินเล่น CASINO ทั่วโลก มีรายได้จากการปันผลส่วนแบ่งจากค่าตอบแทนที่ได้รับจากคาสิโนทุกรอบการลงทุน เริ่มตั้งแต่ 21,000-5,000,000 บาท ซึ่งจะนำเงินมาปันผลให้เดือนละ 10.5 เปอร์เซ็นต์  หากชักชวนผู้อื่นมาร่วมลงทุนก็จะได้ค่าตอบแทนสูงขึ้นในอัตรา 5-15 เปอร์เซ็นต์ ค่าบริหารทีม 8-10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังมีการจัดโปรโมชั่นแจกทอง รถยนต์ ท่องเที่ยวในและต่างประเทศด้วย

 พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ ระบุว่า ทั้ง 2 คดี เป็นการหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุนในสิ่งที่ได้รับผลตอบแทนสูงเกินจริง หากชักชวนให้มีผู้มาร่วมลงทุนเพิ่มก็จะได้ผลกำไรเพิ่มอีก ซึ่งทั้งหมดมีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ ขอย้ำว่าการได้เงินมาโดยง่ายไม่มีอยู่จริงและไม่น่าเชื่อถือ หลังจากนี้จะให้ ปปง.ดำเนินการอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อคืนสู่ผู้เสียหายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


พลตำรวจเอกสุวัฒน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนมีหลากหลายรูปแบบและนับวันจะเพิ่มมากขึ้น และกลุ่มผู้กระทำความผิดมักใช้ช่องทางหรือวิธีการต่างๆมาใช้โน้มน้าวเหยื่อให้หลงเชื่อทั้งคำพูด การโฆษณา แรงจูงใจเพื่อให้ประชาชนสนใจอยากได้เงินผลตอบแทนแล้วนำเงินมาร่วมลงทุน จึงขอฝากถึงประชาชนให้ตรวจสอบแหล่งที่มาที่ไปอย่างละเอียดก่อนร่วมลงทุนเพื่อไม่ตกเป็นเสียสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม