ขยายเวลาเปิดร้านอาหารถึง 5ทุ่มในกทม. วันแรก ไม่คึกคัก ร้านอาหารย่านบางลำพู ถนนข้าวสาร ยังเงียบ เพราะไร้คนเที่ยว
บรรยากาศร้านอาหาร ย่านบางลำพู ถนนข้าวสาร และถนนพระอาทิตย์ ซึ่งเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี ของทั้งคนไทยและต่างชาติ ยังคงอยู่ในภาวะเงียบเหงา และบวกกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ได้เดินทางเข้ามาเกือบครึ่งปี จากสถานการร์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ร้านอาหารส่วนใหญ่เลิกกิจการชั่วคราว เพราะแบกรับภาระค่าเช่ารายเดือนไม่ไหว แม้ขณะนี้กทม.จะประกาศผ่อนคลายมาตรการ ให้ขยายเวลาเปิดร้านอาหารได้ ถึง 5 ทุ่ม วันนี้วันแรกก็ตาม ส่วนร้านอาหารที่ยังคงเปิดขาย ส่วนใหญ่ปิดก่อน 5 ทุ่ม เนื่องจากลูกค้าคนไทยเข้าร้านน้อยลง เปิดไปก็ไม่คุ้มทุน
นายจิรัฏฐ์ จิรรุ่งโรจน์ เจ้าของร้านอาหารชาติ ถนนข้าวสาร กล่าวว่า ร้านอาหารส่วนใหญ่ในถนนข้าวสาร กว่าร้อยละ 90 ขายอาหารและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ถึงแม้วันนี้ กทมจะขยายเวลาให้เปิด ถึง 5 ทุ่ม ก็ไม่มีผลอะไรกับข้าวสาร เพราะคนน้อย คงไม่มีใครที่จะมารับประทานอาหารอย่างเดียวดึกดื่นถึง 5 ทุ่ม อย่างร้านของตนที่ยังเปิดขายอาหาร ได้เนื่องจากเป็นเจ้าของที่เอง เลยไม่มีภาระค่าเช่า จึงพยายามปรับมาขายอาหาร ปรับเมนูให้หลากหลายเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่พอจ่ายเงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ต้องจ่ายทุกเดือน เงินเก็บที่มีอยู่ก็ร่อยหรอลงไปทุกวัน หวังเพียงว่าให้สถานการณ์ดีขึ้นเร็วๆ พร้อมฝากถึงรัฐบาลถึงแม้จะขยายเวลาเปิดก็ยังขายไม่ได้อยู่ดี หากยังห้ามนั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร
เช่นเดียวกับ นางสาว จันทร์ฉาย มาลีสุทธิกุล เจ้าของร้านฮิปปี้เดอบาร์ กล่าวว่า ตั้งแต่โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ถือว่ารายได้เป็นศูนย์ เนื่องจากร้านตัวเอง เป็นร้านนั่งดื่มช่วงกลางคืน และกทม.ประกาศห้ามขายมาตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่ แต่ยังคงต้องพยุงการจ้างงานของพนักงานกว่า 20 ชีวิตอยู่ ดุแลกันไปก่อน เลยต้องปรับแผนมาขายของที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม โดยการนำสมบัติเก่าที่มีอยู่ ทั้ง เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า มาวางขายภายในร้านแทน ซึ่งพอขายได้ ส่วนใหญ่จะติดตามทางออนไลน์และมาช่วยอุดหนุน ถึงแม้ว่า กทม.จะประกาศขยายเวลาปิดร้านอาหาร 5ทุ่ม มองว่า ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เนื่องจากร้านอาหารส่วนใหญ่ที่เปิดดึกๆส่วนใหญ่ขายแอลกอฮอล์ด้วย เมื่อยังไม่ผ่อนปรน ก็ไม่รู้ว่าร้านจะแบกรับภาระได้อีกนานเท่าไร่ .-สำนักข่าวไทย