อสมท 27 ม.ค.- ผู้ว่าการ ททท. ขอบคุณตำรวจจับแก๊งทุจริตเราเที่ยวด้วยกัน ระบุทุกรายจะถูกแบล็กลิสต์ทั้งหมด ทำคนส่วนใหญ่เดือดร้อน วอนประชาชนพบการกระทำความผิดเพิ่มแจ้ง 1672
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงการทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มูลค่าความเสียหาย กว่า 100 ล้านบาท ที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ กว่า 800 ราย วันนี้ ว่าสืบเนื่องมากจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และค่าตั๋วเครื่องบิน โดยรัฐช่วยจ่าย 40 % ของราคาที่พัก จึงส่งเรื่องให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ปรากฏว่า มีความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และสามารถจับกุมได้ในวันนี้ ซึ่งทาง ททท.ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ทราบว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก เนื่องจากเป็นการทำธุรกรรมทางแอปลิเคชัน หรือทำธุรกรรมบนระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรจะทิ้งร่องรอยไว้ทั้งหมด
ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรววจ ที่เข้าไปสืบสวนสอบสวนได้อย่างรวดเร็ว จนได้ผู้กระทำความผิดที่ชัดเจน สามารถป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นในอนาคตอีก โดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้นโยบายไว้ชัดเจนว่าขอให้ดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ทุจริตจนถึงที่สุด โดยจำนวนผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด 800-900 รายนี้ จากจำนวนโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เกือบ 8,000 แห่ง ร้านค้า 60,000-70,000 แห่ง แม้จะมองดูว่าเป็นจำนวนผู้ประกอบการที่ไม่มาก แต่จำนวน 100 ที่เกิดความเสียหายถือว่ามาก เนื่องจากเป็นงบประมาณแผ่นดิน และงบที่มาจากเงินกู้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่ยอมให้เกิดการทุจริต ซึ่งถือว่าเป็นความตั้งใจในการทุจริต ซึ่งทุกระบบมีช่องว่างทั้งนั้น แต่คนเห็นช่องว่างในการทุจริต แทนที่จะมาบอกเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่นำช่องว่างไปหาผลประโยชน์ส่วนตน เป็นการฉ้อฉนงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งรัฐบาลมีเจตนาที่ชัดเจนว่า ต้องการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ
ผู้ว่าการ ททท. ย้ำว่า ผู้ที่กระทำการทุจริต จะถูกขึ้นแบล็กลิสต์ทั้งหมด จะไม่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐอีกต่อไป ซึ่งจะพลอยทำให้ผู้ประกอบการที่ดำเนินการถูกต้องเดือดร้อนไปด้วย ทั้งนี้โครงการเริ่มมาตั้งแต่เดือน ก.ค.63 เพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้ประกอบการ และทันต่อความช่วยเหลือ ดังนั้นมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการเสมอว่า หากรัฐให้ความช่วยเหลือที่รวดเร็วแล้ว พบช่องว่าง แต่ไม่ช่วยกันอุด แต่กลับใช้ช่องว่าแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน การที่รัฐจะออกโครงการช่วยเหลือ จำเป็นต้องมีมาตรการที่รัดกุมขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้การช่วยเหลือล้าช้าไปอีก คดีนี้กลายเป็นว่าคนส่วนน้อย ทำให้คนส่วนใหญ่เดือนร้อนไปด้วย
หลังจากนี้จะเป็นระยะขยายผล ยืนยันจะไม่ปล่อยให้คนกระทำความผิดลอยนวลแน่นอน ททท. ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อยื่นข้อมูลการร้องเรียนการกระทำความผิดเราเที่ยวด้วยกัน ทั้งนี้หากประชาชนพบการกระทำความผิด ขอให้แจ้งมาทางที่สายด่วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 1672
ส่วน ความคืบหน้าการใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีจำนวนกว่า 5.3 ล้านสิทธิ จาก 6 ล้านสิทธิ มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากช่วงนี้มีการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ จึงไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ทำให้ปริมาณการเดินทาวช่วงนี้ลดลง หากสถานการณ์ดีขึ้น คนจะกลับมาใช้สิทธิ แต่สำหรับคนที่จองห้องพักไปแล้ว สามารถเลื่อนได้ จนถึง 30 เม.ย.64.สำนักข่าวไทย