นครศรีธรรมราช 7 ธ.ค. – นายกฯ เผยนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ’ในหลวง’ ทรงพระราชทานถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ยันเร่งรัดแจกจ่ายเงินช่วยเหลือให้เร็วขึ้น ย้ำเป็นคนไทยต้องรัก 3 สถาบันหลักของชาติ เตือนชาวบ้านอย่าประมาทโควิด สั่งใช้โดรนตรวจจับได้ถึงบ้านลักลอบไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางด้วยรถรถยนต์ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขทะเบียน 1 นข 2934 กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ขมให้กำลังใจประชาชน ระหว่างทางนายกรัฐมนตรี ได้หยุดรถทักทายและสอบถามประชาชนผู้ประสบอุทกภัยบริเวณข้างทาง ก่อนจะเดินทางถึงศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประชาชนมาร่วมต้อนรับ เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทาน ก่อนร่วมปรุงอาหารเพื่อแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบอุทกภัย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้มาจังหวัดนครศรีธรรมราช ดีใจจังฮู้ เมื่อสักครู่มีประชาชนเอาข้าวกับแกงคั่วกลิ้งมาให้ชิม ดีใจอย่างที่บอกได้มาเยี่ยมชาวนครฯ และฝากถึงชาวจังหวัดอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบด้วย วันนี้รัฐบาลได้วางมาตรการเป็นระดับ ๆ ซึ่งหลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมีสาเหตุหลักจากปริมาณน้ำฝนมาก โดยเท่าที่ได้รับรายงาน 7 วัน มีฝนตก ถึง 900 มิลลิเมตร เทียบกับปกติที่ทั้งปีในตกไม่เกิน 2,000 มิลลิเมตร ทำให้สภาพลำคลองธรรมชาติรับไม่ไหวและอ่างเก็บน้ำเต็ม รัฐบาลมาเยี่ยมให้กำลังใจ แม้ไม่ได้มา แต่ก็รับฟังข้อมูลและที่มาช้าเพราะต้องการข้อมูลจากข้างล่างว่ามีปัญหาตรงไหน ต้องแก้เชิงระบบเชิงโครงสร้าง เท่าที่ทราบมีผู้ได้รับผลกระทบเยอะมาก ที่แย่คือมีผู้เสียชีวิต 19 ราย รัฐบาลขอแสดงความเสียใจกับทุกคน และจะดูแลให้มากที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การช่วยเหลือระยะแรก การแจกถุงยังชีพ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานถุงยังชีพจำนวน 10,000 ถุง และยังทรงรับสั่งว่าหากไม่เพียงพอก็พร้อมมอบให้อีก นี่คือสถาบันพระ มหากษัตริย์ เข้าใจใช่หรือไม่ พระองค์ท่านทรงทำหลายอย่างและทรงพระราชทานความช่วยเหลือ ดังนั้นทุกอย่างต้องแก้เป็นระยะ ๆ ต่อไปรัฐบาลก็ทบทวนโครงการที่ลงมายังจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง ตนอยากขออย่างเดียวขอประชาชนช่วยมีส่วนร่วมในการทำประชาพิจารณ์ เพราะเจอปัญหาหลายพื้นที่ที่ยังมีปัญหาอยู่ เพราะไม่ผ่านประชาพิจารณ์ ตนให้นโยบายไปแล้วขอให้ทุกคนช่วยกันไม่เช่นนั้นแก้ไม่ได้ ทำอย่างไรให้สอดประสานเกิดการบูรณาการ ซึ่งวันนี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลง สิ่งสำคัญที่สุดให้คนอยู่กับน้ำได้โดยไม่ขาดแคลนสิ่งอุปโภคบริโภค และวันนี้เร่ง ระบายน้ำ มีทั้งพลเรือนตำรวจและทหารมาช่วยเต็มที่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องถนนขวางทางน้ำ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมมาดู ทั้งหมดต้องทำเป็นระบบ แต่ทั้งหมดนายกรัฐมนตรี ทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือก็จบ นั่นคือกฎหมายและรัฐธรรมนูญ วันนี้หลายอย่างเริ่มดีขึ้น เศรษฐกิจในพื้นที่หลายโครงการได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งและโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งดีใจหลายคนมากราบไหว้วัดไอ้ไข่ และสักการะพระธาตุ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งการท่องเที่ยววันนี้ถ้าไม่มีไอ้ไข่ก็ลำบาก ซึ่งทุกคนมีใจกุศลและเชื่อมั่น อะไรที่ท่านเคารพ ตนก็เคารพหมด ตนดีใจเห็นรอยยิ้มประชาชนรู้สึกชื่นใจ นายกฯ มีหลายงาน ไม่ใช่ไม่ห่วง มาดูว่ารัฐบาลแก้อะไรได้บ้าง และเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ เหมือนถนนสักเส้นทำปีเดียวไม่ได้ แต่ถ้าไม่มียุทธศาสตร์ชาติก็ไม่ถึงที่หมาย บางอันต้องทำตามนี้แค่นั้นเองไม่ได้เผด็จการอะไรเลย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังกังวลที่หลายบ้านยังอยู่ในน้ำ วันนี้ขอให้ทุกคนช่วยในการทำโครงการต่างๆ เพราะคนในพื้นที่เป็นคนรู้ปัญหามากที่สุด ขอให้ฟังเหตุผลราชการถึงจะไปได้ สำหรับการช่วยเหลือนั้นทั้งในส่วนระเบียบส่วนราชการ หรืองบฯ อะไรก็แล้วแต่จะเร่งรัดแจกจ่ายให้เร็วขึ้น และยังมีงบฯบริจาค ซึ่งอะไรที่ใช้งบฯราชการได้ก็ใช้ส่วนนี้ แม้มีเงินไม่มากนักแต่ถ้าเป็นของประชาชนเราจะดูแล อย่างไรก็ตามตนเคยมาที่นี่มาหลายครั้งตอนตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เสด็จมาเนินธัมมังหลายครั้งและเสด็จภาคใต้ทุกปี มีการสร้างศูนย์ศิลปาชีพ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มี ส.ส.มา 5 ท่าน พรรคพลังประชารัฐ 3 และประชาธิปัตย์ 2 ไม่ว่าใครพรรคอะไรก็เหมือนกัน วันนี้ต้องร่วมมือกันไม่ร่วมมือความขัดแย้งก็สูง ตนไม่ติใคร เดี๋ยวว่าตนอีก ตนทำงานไม่เคยบ่น ไม่เคยเหนื่อย ตราบใดที่ทำก็ต้องทำ อยู่จนทำให้เสร็จในเมื่ออยู่ก็ทำให้เต็มที่ วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง เมื่อพูดถึงช่วงนี้มีเสียงเด็กร้องดังขึ้นมา นายกฯ จึงกล่าวแซวว่า “นั่นไงประท้วงละ”
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือโควิด-19 วันนี้ยังประมาทไม่ได้จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันคาดว่าเป็นกลางปีหน้า วันนี้ขอเตือนคนที่ข้ามไปมาตามแนวชายแดนที่ไม่ผ่านช่องทางปกติ ตนได้สั่งเพิ่มใช้โดรนตรวจ จับได้ถึงบ้าน ลักลอบไม่ได้ ยืนยันว่าสถานการณ์วันนี้ยังไม่ใช่ซุปเปอร์สเปรดเดอร์ เพราะยังรู้มา รู้ตัวคน แต่อย่าประมาท เพราะวันนี้เรายังอยู่ระดับท้าย ๆ ประเทศที่มีการระบาด ขอให้ทุกคนปรบมือให้ตัวเอง อะไรที่เป็นปัญหานายกฯ ต้องแก้ บางอย่างต้องใช้การตัดสินใจเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นก็ไม่เป็นแบบวันนี้ ซึ่งหลายประเทศยังติดเชื้อแต่เรามีหมอ แพทย์ พยาบาลและยาเตรียมไว้พร้อม ถ้ามีปัญหาอีกรัฐบาลก็ทุ่มเท รวมทั้งการพัฒนาวัคซีน ตนก็คิดว่าจะสำเร็จโดยต้องพัฒนาในประเทศเราด้วย ซึ่งเรื่องนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอีกเรื่อง ที่ทรงพระราชทานบริษัทสยามไบโอ ที่ทรงพระราชทานสนับสนุนรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอโทษที่หลายคนมารอแต่เช้า สิ่งสำคัญที่สุด ประเทศชาติของเราอยู่ด้วย 1.ชาติ 2.ศาสนา แม้แตกต่างกันแต่อยู่ร่วมกันได้ 3.สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกพระองค์ทรงทำงานมาตลอด 800 ปีและสืบทอดปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณคนไทยต้องสำนึกตรงนี้ ทั้งหมดเพื่อทำให้บ้านเราปลอดภัยอย่างยั่งยืน
นายกฯ กล่าวถึงโครงการคนละครึ่ง ว่า เป็นคนสั่งเอง ถ้าแจกอย่างเดียวไม่ได้ต้องร่วมกัน แต่ขออย่าขึ้นราคา ขณะที่ประชาชนต้องรักษาสิทธิตัวเองใครทำไม่ถูกต้องไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งคนละครึ่งจะมีระยะ ที่ 2 เดือนม.ค.นี้ ขอให้ทำให้ทัน 10 ล้านรายไปแล้ว ต่อไปก็อีก 5 ล้านรายตามมา และถ้าต่อให้อีกก็จะต่อให้ วันนี้หลายร้านไม่ลงทะเบียนก็ขายหมดช้ากว่าร้านที่ลงทะเบียน จึงต้องปรับตัว นี่เรียกว่าการให้เบ็ดตกปลา
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ทักทายนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และส.ส.ในพื้นที่ อย่างเป็นกันเอง จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางเยี่ยมประชาชนผู้ประสบอุทุกภัยที่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 5 บ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว พร้อมกล่าวทักทายและให้กำลังใจประชาชนผ่านโทรโข่ง ว่า เราคือคนไทยทั้งประเทศ ประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมชักชวนให้ประชาชนขึ้นทะเบียนโครงการคนละครึ่ง จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ลงจากรถเพื่อทักทายชาวบ้านและร่วมถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้านเป็นที่ระลึก โดยชาวบ้านให้กำลังใจบอก “นายกฯ สู้ๆ”ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับ .- สำนักข่าวไทย