นราธิวาส 29 พ.ย.-สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระดับน้ำยังสูง
แม้ว่าวันนี้ที่นราธิวาสจะไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม แต่ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก กลับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีมวลน้ำจากเทือกเขาสันกาลาคีรีที่เชี่ยวกรากไหลผ่านอำเภอสุคิรินผ่านมายังอำเภอแว้ง ลงมาสมทบเพิ่ม ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนราษฎรตามแนวแม่น้ำสุไหงโก- ลก เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ยังเตือนต่อเนื่องให้ระวังฝนตกหนักในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ส่วนที่จังหวัดพัทลุง ตอนนี้ยังมีน้ำท่วมในหมู่บ้านพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา ใน 5 อำเภอ คือ อำเภอควนขนุน เขาชัยสน บางแก้ว ปากพะยูน และอำเภอเมือง โดยเฉพาะเส้นทางจราจรระหว่างตำบล บางจุดยังมีน้ำท่วมสูง เฉลี่ย 30-50 ซม. ส่วนพื้นที่การเกษตร นาข้าว สวนยางพารา สวนปาร์ลน้ำมัน ถูกน้ำท่วมขัง จำนวนกว่า 5,000 ไร่ ขณะเดียวกันบ่อเลี้ยงปลา ของประชาชนพื้นที่หมู่บ้านริมทะเลสาบก็ได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นกัน ขณะที่พื้นที่ริมเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ในพื้นที่ อำเภอป่าบอน อำเภอตะโหมด อำเภอกงหรา อำเภอศรีนครินทร์ ระดับน้ำเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว หลังฝนได้หยุดหนักมานานกว่า 14 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังฝนตกหนักอีกครั้ง ช่วงระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 4 ธันวาคม โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมรับมือน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม เนื่องจากสภาพดินที่อุ้มน้ำนาน ซึ่งทางจังหวัดพัทลุงมีการออกประกาศติดตามเฝ้าระวังแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องเพราะในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปี พื้นที่จังหวัดพัทลุงตะได้รับอิทธิพลมรสุมฯ พัดผ่าน ทำให้เกิดฝนตกและตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลับ จึงขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดด้วย
ส่วนที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะที่อำเภอรัตภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ล่าสุดระดับน้ำที่ท่วมในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 3 ตำบลกำแพงเพชร ลดลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงน้ำท่วมขังบนถนนเส้นทางเข้าหมู่บ้านบริเวณวัดห้วยหลาดเท่านั้น รถทุกชนิดสามารถสัญจรได้แล้ว ซึ่งจุดนี้ระดับน้ำเคยท่วมสูงถึงเกือบ 1 เมตร ส่วนระดับน้ำในคลองภูมีลดลงต่ำกว่าตลิ่งมากกว่า 1 เมตร อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้น้ำจะเริ่มลดลงแล้ว บ้านเรือนยังคงเสียหาย รวมทั้งโรงเรียนบ้านชายคลอง ที่ถูกน้ำท่วมห้องเรียนและสื่อการเรียนเสียหาย ทำให้ไม่สามารถเปิดเทอมได้ตามกำหนด
สำหรับภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลา มีน้ำท่วม 8 อำเภอ 135 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นายปกรณ์ อินทสระ อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลทำนบ อำเภอสิงหนคร ที่ลงไปช่วยขุดลอกคลองและจมน้ำหายไปเมื่อวานนี้ (28 พ.ย.).-สำนักข่าวไทย