fbpx

สบส.เร่งตรวจสอบคลินิก ดูดไขมันทำหน้าท้องสาวไหม้

กรมสบส.24 พ.ย.-กรม สบส.ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลินิกดูดไขมันด้วยเทคนิคบอดี้ไทท์ย่านสยามสแควร์ หลังมีผู้ร้องเรียนทำหน้าท้องไหม้เป็นแผลเป็น ย้ำอย่าหลงเชื่อข้อมูลทางโซเชียลมีเดียด้านเดียว ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน


 

จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน หลังรับบริการดูดไขมันหน้าท้องที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านสยามสแควร์ กทม. ที่ให้บริการดูดไขมันด้วยเทคนิคบอดี้ไทท์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเกิดบาดแผลไหม้ที่หน้าท้องจนเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ ต้องเสียทั้งค่าบริการดูดไขมันและรักษาบาดแผลนับแสนบาท โดยหญิงรายนี้บอกว่าได้ค้นหาข้อมูลของคลินิกแห่งนี้ทางสื่อโซเชียลมีเดีย ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ


 

นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้า ว่า ได้สั่งการให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะและกองกฎหมาย เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน โดยส่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าวใน 4 ประเด็น1.มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับกรม สบส.ตามที่ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนดหรือไม่ 2.แพทย์ที่ตรวจรักษา เป็นแพทย์จริงที่ขึ้นทะเบียนกับแพทยสภาหรือไม่ 3.เครื่องมือที่ใช้ดูดไขมันหรือเครื่องมืออื่นๆ รวมทั้งยาเวชภัณฑ์ที่ให้บริการมีคุณภาพมาตรฐานและขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือไม่ 4. ตรวจสอบการโฆษณาของคลินิกว่าเข้าข่ายการโฆษณาชวนเชื่อ ถึงความเชี่ยวชาญ หรือความชำนาญของแพทย์ตามวุฒิบัตรที่ได้รับจากแพทยสภาหรือไม่ หากพบตกเกณฑ์มาตรฐานข้อใดข้อหนึ่งจะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายโดยทันที

 


นพ.ประภาส  กล่าวว่า การโฆษณาของคลินิกที่ให้บริการเสริมความงาม สามารถเผยแพร่ได้ที่หน้าร้าน  แต่การโฆษณาความชำนาญของแพทย์ผู้ให้บริการต้องตรงกับวุฒิบัตรที่ได้รับจากแพทยสภา ห้ามโอ้อวดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่ไม่มีวุฒิบัตร แต่ปัจจุบันคลินิกที่ให้บริการเสริมความงามมัก ใช้วิธีโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้โดยง่าย ใช้ข้อความโฆษณาโอ้อวด เกินจริง ทั้งเทคนิคการรักษา ความเชี่ยวชาญของแพทย์และผลลัพธ์การรักษาที่สนองความต้องการผู้ใช้ บริการ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อเข้ารับบริการ โดยขาดการศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคน ศึกษาข้อมูลของคลินิกเหล่านี้ก่อนรับบริการทุกครั้ง เมื่อได้ข้อมูลชื่อคลินิกและแพทย์จากโซเชียลมีเดียแล้ว ให้นำมาตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ที่เว็บไซต์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (www.hss.moph.go.th) ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่เว็บไซต์แพทยสภา (www.tmc.or.th) หากไม่พบ หรือพบเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ควรเข้ารับบริการเด็ดขาดเพราะถือว่าคลินิกแห่งนั้นไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดอันตรายกับตัวผู้รับบริการได้ และให้รีบแจ้งสายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค กรม สบส. 02 193 7999 หรือเฟซบุ๊ค สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน   กรม สบส. จะรีบดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที

 

ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า เทคนิคบอดี้ไทท์(Body Tite)เป็นวิธีการ “ดูดไขมัน” โดยใช้เครื่องมือส่งคลื่นวิทยุ ผ่านท่อขนาดเล็ก 1-3 มิลลิเมตร เข้าไปในชั้นไขมันเพื่อละลายไขมันให้เป็นน้ำและดูดออกจากร่างกายซึ่งก่อนให้บริการทุกครั้งแพทย์ต้องชี้แจงถึงผลลัพธ์ที่ได้และความเสี่ยงที่อาจเกิด ขึ้นเพื่อให้ผู้รับบริการได้รับข้อมูลที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553