ระยอง 24 พ.ย. – ไออาร์พีซีเดินหน้าปรับองค์กรทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ มีผู้เข้าร่วม “โนอาห์” ลาออก 1,200 คน พร้อมเร่งรายได้จากสินค้านวัตกรรมให้มีรายได้เป็นสัดส่วน 30% ภายในปี 2567 พัฒนานวัตกรรมทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม
นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ไออาร์พีซีเน้นการพัฒนาสินค้านวัตกรรมทั้งวิจัยเองและซื้อลิขสิทธิ์มาต่อยอดพัฒนาต่อ ซึ่งงานวิจัยได้ผลหลากหลายเรื่อง เช่น การผลิตสารละลายซิงก์ออกไซด์ระดับนาโนยับยั้งโรคพืชทั้งไม้ผล พืชไร่ และเพิ่มผลผลิตประมาณร้อยละ 20-70 การวิจัยแบตเตอรี่ Lithium-sulfur ต้นทุนต่ำ แต่ให้พลังงานสูง น้ำหนักเบา เป็นแหล่งพลังงานทั้งรถอีวี โดรน วัสดุอุปกรณ์หรือโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ และจะมีความร่วมมือกับลูกค้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และยังเตรียมใช้สำหรับการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โรงงานผลิตสินค้าเม็ดพลาสติดขึ้นรูป จากเดิมเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติดขายให้เท่านั้น โดยขณะนี้เจรจากับผู้ประกอบการในประเทศ 2-3 ราย คาดว่าจะมีความชัดเจนปีหน้า ซึ่งตามแผนของไออาร์พีซีจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty grade) ให้มีรายได้ขึ้นเป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 13 และปี 2564 เป็นร้อยละ 21
“สินค้า Specialty grade จะมีทั้ง Buy และ Built เพื่อตอบสนองตลาด และการทำตำตลาดจากที่มี Inline Compoundก็จะสามารถผลิตได้ตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เช่น เม็ด PP Compound สำหรับอีวี การผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์” นายนพดล กล่าว
ส่วนความคืบหน้าโครงการโนอาร์ เพิ่มประสิทธิภาพองค์กร โดยเปิดให้พนักงานเข้าร่วมโครงการปี 2563-2568 มีพนักงานเข้าร่วมประมาณ 1,200-1,300 คน จากพนักงานกว่า 5,000 คน คาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายประมาณ 700-1,000 ล้านบาทต่อปี ภายใน 3 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปี 2564 คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวกลับมาเป็นบวก ซึ่งต้องรอลุ้นการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด –19 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการบริโภคน้ำมันในตลาดโลก ส่วนแผนลงทุนปี 2564 บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนลงทุนเตรียมนำเสนอที่ประชุมบอร์ดวันนี้.-สำนักข่าวไทย