รร.แกรนด์ไฮแอทฯ 23 พ.ย. – คลังเร่งสรุปคนละครึ่งเฟส 2 เสนอ ศบศ.ต้นเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมขยายผู้รับสิทธิเฟส 1 ได้สิทธิรับวงเงินเพิ่มในเฟส 2 ด้วย หวังเปิดกว้างกลุ่มเป้าหมายได้รับการช่วยเหลือต่อเนื่องถึงเทศกาลตรุษจีน
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน Wealth Forum : ลงทุนอย่างไร..ให้รวย จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า กระทรวงการคลังกำลังเร่งศึกษาโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบนโยบาย เปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ได้มีส่วนร่วมทั้งหมด ส่วนจะขยายจำนวนผู้รับสิทธิและเพิ่มวงเงินเท่าใด ต้องพิจารณาภาระต่องบประมาณ ซึ่งต้องจัดหาแหล่งเงินมารองรับ และได้มอบหมายให้ธนาคารกรุงไทยประมวลผลการลงทะเบียนทั้งหมด “คนละครึ่ง” ในช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
เบื้องต้นอาจเปิดให้ผู้ได้รับสิทธิเฟส 1 ได้สิทธิในเฟส 2 อัตโนมัติ ได้รับวงเงินเพิ่มเติมอีก และยังขยายเวลาการใช้จ่ายถึงต้นปีหน้ายาวต่อไปถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 หากขยายสิทธิครอบคลุมรายย่อยเพิ่มเป็น 14-15 ล้านคน ต้องศึกษาให้สอดคล้องกับชาวบ้านทั้ง 3 กลุ่ม คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน ผู้ลงทะเบียนคนละครึ่ง 10 ล้านคน และผู้ใช้สิทธิช้อปดีมีคืน 3.7 ล้านคน หากใครมีรายได้ฐานการเสียภาษีเกินร้อยละ 10 อาจเลือกใช้ช้อปดีมีคืน เพราะได้รับเงินคืนอย่างน้อย 3,000 บาท
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยังต้องการเพิ่มเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จากปัจจุบันได้รับเพิ่มเดือน 500 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ส่วนขั้นตอนการเตรียมลงทะเบียนผู้ถือบัตรฯ รอบใหม่ ซึ่งได้จัดเตรียมการเอาไว้รองรับนานแล้ว คงต้องรอให้ โครงการคนละครึ่งสิ้นสุดลง จึงจะเปิดให้ลงทะเบียนผู้ถือบัตรสวัสดิการรอบใหม่ ยืนยันว่ามีแหล่งเงินเพียงพอรองรับการจัดทำโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กับรายย่อย พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท จากสัดส่วนงบด้านการฟื้นฟูวงเงิน 400,000 ล้านบาท
นายกฤษฎา ย้ำว่ากระทรวงการคลังยังเดินหน้าศึกษาใช้มาตรการทางการคลังขับเคลื่อนดูแลเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ หลังจากนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งสรุปการขยายมาตรการคนละครึ่ง และการเติมเงินค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา และเสนอคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) ต้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในขั้นต่อไป นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังสั่งการให้แบงก์รัฐเร่งจัดทำของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผ่อนชำระดี เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่ม เช่น ที่ผ่านมากองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ลดเงินต้นให้กับนักเรียน นักศึกษาที่ชำระหนี้ดี.-สำนักข่าวไทย