22 ม.ค.- ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งหลอกยกเลิกโครงการคนละครึ่งให้เหยื่อสแกนหน้า ดูดเงินสูญ 3.7 แสนบาท
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้เสียหายได้รับ SMS ให้ติดต่อเข้ามาให้ยกเลิกโครงการคนละครึ่ง พร้อมแนบลิงก์ ผู้เสียหายจึงได้กดลิงก์ตามที่แนบมา ซึ่งคล้ายกับโครงการคนละครึ่งของกระทรวงการคลัง และได้กรอกข้อมูลส่วนตัวจากนั้นมีการให้ยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP
จากนั้นมีคนร้ายโทรเข้ามาเพื่อให้สแกนใบหน้ายืนยันตัวตน ในระหว่างที่มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ คนร้ายได้เข้าควบคุมโทรศัพท์ของผู้เสียหายโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อโทรศัพท์ใช้งานได้ตามปกติพบว่าเงินในบัญชีธนาคารได้ถูกโอนออกจากบัญชี จำนวน 4 ครั้ง รวมจำนวนเงิน 376,733 บาท เชื่อว่าตนเองถูกคนร้ายหลอกลวง จึงได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหาและพวกจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.คัมภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 กวาดล้างจับกุมขบวนการดังกล่าว
ต่อมาวันที่ วันที่ 21 ม.ค.67 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 นำโดย พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.รัตนากร อายุ 22 ปี ซึ่งถูกออกหมายจับโดยศาลจังหวัดนครราชสีมา ในความผิดฐาน ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยรวมเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกัน โดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน”
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการวางแผนจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะเดินอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จว.นครราชสีมา นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 มาดำเนินคดีได้ในที่สุด โดยก่อนหน้านี้ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 สามารถสืบสวนจับกุมผู้ร่วมเปิดบัญชีในขบวนการนี้มาแล้ว 1 ราย .412.-สำนักข่าวไทย