นครพนม 6 พ.ย. – กรณีที่เมื่อคืนนี้ เกิดเหตุฆาตกรรมและเผาบ้านในพื้นที่บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 2 ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวครึ่งปูนครึ่งไม้ ถูกไฟลุกลามไหม้เสียหายทั้งหลัง ภายในบ้านที่ถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง พบสภาพศพผู้เสียชีวิต 2 ราย ถูกไฟไหม้จนร่างดำเป็นตอตะโกคือ นางอานนท์ สีดาวงศ์ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน และลูกชาย คือ ด.ช.อานนท์ โทปะ อายุ 14 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุคือ สามีผู้ตาย นายพันธ์ โทปะ อายุ 50 ปี หลังเกิดเหตุได้มีอาการคุ้มคลั่ง วิ่งไปทำร้ายร่างกายเพื่อนบ้าน ที่พยายามมาคุมตัวผู้ก่อเหตุ ซ้ำร้ายผู้ก่อเหตุยังตะโกนบอกเพื่อนบ้านว่าฆ่าภรรยากับลูกเรียบร้อยแล้ว จนชาวบ้านต้องช่วยกันล็อกตัวไว้ได้ ก่อนที่ตำรวจจะมาควบคุมตัวไปสอบสวน
ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม และกำลังชุดสืบสวน คุมตัว นายพันธ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าภรรยากับลูกก่อนราดน้ำมันเผาคาบ้าน ไปชี้จุดภายในบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่า เกิดอาการคุ้มคลั่งประสาทหลอน เนื่องจากป่วยทางจิตมานานหลายปี แต่ขาดการกินยารักษาประมาณ 3 เดือน จึงเกิดอาการประสานหลอน จึงใช้ค้อนตีตะปู ทุบทำร้ายเมียที่ศีรษะ แบบไม่ตั้งตัว จนหมดสติ จากนั้น ได้ใช้ค้อนทุบศีรษะลูกชาย ที่อยู่ในบ้าน จนหมดสติ และใช้ผ้าห่ม รวมถึงเสื้อผ้า ไปกองทับร่างทั้ง 2 คน ที่หมดสติ พร้อมนำแกนลอนน้ำมัน ที่ใช้เติมรถไถนา ไปราด และจุดไฟเผา ทำให้ไฟลุกไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง รวมถึงร่างภรรยา กับลูกชายถูกเผาเป็นตอตะโก
ส่วนจุดที่สอง หลังก่อเหตุ นายพันธ์ โทปะ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา ยังได้วิ่งออกมาคว้าเอาจอบไปไล่ทุบตี ทำร้ายเพื่อนบ้าน ที่อยู่บ้านติดกัน เป็นเหตุให้ นางละคร บัวดา อายุ 59 ปี เพื่อนบ้าน ถูกผู้ต้องหาใช้จอบตีเข้าที่หลังบาดเจ็บ และพยายามตีซ้ำเข้าที่ศีรษะ แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ใช้แขนรับไว้ ทำให้ได้รับบาดเจ็บแขนขวาหัก โชคดีรอดชีวิต มีคนมาช่วยได้ทัน ทำให้ผู้ต้องหาพยายามวิ่งไปทำร้ายคนอื่น และชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้ได้ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความหดหู่ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุเศร้าขึ้น ซึ่งขณะคุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ ยังพบว่า มีอาการเซื่องซึม ไม่ค่อยโต้ตอบคำถามเจ้าหน้า แต่ให้ความร่วมมือในการชี้จุดทำแผน
พล.ต.ต.ธนชาติ เปิดเผยว่า หลังการสอบสวนหาสาเหตุ ทางผู้ต้องหาพอให้การได้รวมถึงสอบสวนญาติใกล้ชิด ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหา มีอาการป่วยทางจิต เกิดประสาทหลอน จะมีคนมาทำร้ายร่างกาย รวมถึงพรากภรรยากับลูกไป จากตัวเอง และจะมีคนมาเอาสิ่งของในบ้าน จึงเกิดความเครียด เนื่องจากปกติมีอาการป่วยทางจิต ต้องรักษากินยาโรงพยาบาลจิตเวชมานานหลายปี แต่ช่วงนี้ขาดการดูแลเอาใจใส่ ไม่ได้กินยามานานกว่า 3 เดือน รวมถึงมีการดื่มสุรา ทำให้อาการป่วยกำเริบ จนกระทั่งก่อเหตุใช้ค้อนตอกตะปูทุบศีรษะภรรยา ที่ทำงานในบ้านไม่ทันระวัง รวมถึงลูกชายอายุ 14 ปี จนหมดสติ ก่อนที่จะเอาเสื้อผ้าวางเป็นเชื้อเพลิงราดด้วยน้ำมันจุดไฟเผา แต่เพื่อนบ้านไม่สามารถช่วยได้ทัน ทำให้ไฟไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง รวมถึงเผาศพภรรยากับลูกไปด้วย ซึ่งช่วงเกิดเหตุอยู่กัน 3 คน
สำหรับครอบครัวดังกล่าว มีลูกชายทั้งหมด 3 คน คนโตอายุ 22 ปี ไปบวชที่วัด คนกลางอายุ 18 ปี ไปธุระนอกบ้าน มีแต่ภรรยากับลูก คนสุดท้องที่เสียชีวิตอยู่บ้าน อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้ส่งศพทั้ง 2 ราย ที่เสียชีวิตไปชันสูตร หาสาเหตุที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น เพื่อสรุปหาสาเหตุประกอบการดำเนินคดี ส่วนข้อหาได้แจ้งความผิด เจตนาฆ่า รวมถึงวางเพลิงเผาทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งจะต้องรวบรวมหลักฐานการชันสูตรมาประกอบการดำเนินคดี ตามกฎหมาย
ส่วน นางละคร บัวดา อายุ 59 ปี เพื่อนบ้านเล่านาทีชีวิตเกือบเอาชีวิตไม่รอดว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงมาจากบ้านเกิดเหตุ ลักษณะเหมือนเสียงทุบตีกัน แต่ไม่ได้ใส่ใจ นึกว่าเป็นการทุบสิ่งของ เพราะปกติ คนก่อเหตุในช่วงเช้ายังมีอาการปกติ และช่วงนี้ไม่มีพฤติกรรมจะทำร้ายใคร เคยมีอาการทางประสาทแต่ไม่รุนแรง พอหลังก่อเหตุ ตนนั่งอยู่ข้างบ้าน ซึ่งบ้านติดกัน มองเห็น นายพันธ์ โทปะ อายุ 50 ปี ถือจอบเดินเข้ามาหา และเห็นควันไฟลุกขึ้นข้างบ้าน ชาวบ้านจึงเรียกกันไปดู จากนั้นพยายามเรียกชื่อ นายพันธ์ ที่ถือจอบเข้ามาหาตน แต่ดูท่าไม่ดี จึงวิ่งหนี ก่อนที่จะวิ่งตาม และพยายามเอาจอบทุบตีเข้าด้านหลัง ก่อนที่จะตามซ้ำพยายามทุบตีเข้าศีรษะ ตนจึงหันมาเอาแขนรับไว้ จนบาดเจ็บแขนหัก โชคดีมีชาวบ้านพยายามมาช่วยไว้ เบี่ยงเบนให้ นายพันธ์ โทปะ อายุ 50 ปี วิ่งตามไป และชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้ ซึ่งขณะนั้นพูดจาไม่รู้เรื่อง เหมือนคนขาดสติ โชคดีตนรอดชีวิต ถ้าไม่มีคนช่วยทันคงถูกจอบทุบตาย ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ .- สำนักข่าวไทย