วุฒิสภา 27 ต.ค.-กมธ.สิทธิฯวุฒิสภา มีมติกรณี “น้องชมพู่” เร่ง กสทช. ออกมาตรการเร่งรัดรวมกลุ่มวิชาชีพสื่อฯ นำกองทุนยูโซ่ ส่งเสริมจริยรรมให้เป็นที่ประจักษ์ และห้ามเสนอข่าวงมงายด้านไสยศาสตร์
นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา มีหนังสือไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ตามมติคณะกรรมาธิการฯ ในการส่งข้อเสนอแนะที่เป็นผลจากการศึกษาของ อนุ กมธ.สื่อมวลชน วุฒิสภา ที่ได้พิจารณาศึกษา “จริยธรรมในการนาเสนอข่าวสารของนักวิชาชีพสื่อมวลชนจากกรณีการนาเสนอข่าวติดตามคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่” โดยได้เชิญอดีตช่างภาพสื่อมวลชน อดีตผู้สื่อข่าว ผู้แทนจากสานักงาน กสทช. ผู้แทนจากสถานีโทรทัศน์ ผู้แทนจากสมาคมด้านสื่อมวลชนและนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน มาให้ข้อมูลต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการเมื่อวันพุธที่ 16 กันยายน 2563 และวันพุธที่ 30 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
ข้อเสนอแนะดังกล่าว เป็นการเร่งรัดดำเนินการในเรื่องมาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
อีกทั้ง กสทช. ควรมีการพิจารณาการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามบทบัญญัติในมาตรา 52(3) แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ และควรมีการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อเป็นการยกย่องผู้ที่มีจริยธรรมให้เป็นที่ประจักษ์
นอกจากนี้ กมธ.สิทธิฯวุฒิสภา ยังเห็นว่า กสทช. ควรมีการพิจารณากากับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามบทบัญญัติในมาตรา27(6) แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ โดยการให้สถานีโทรทัศน์แต่ละช่องจะต้องเคร่งครัดในการนาเสนอ หรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ที่ไม่สามารถพิสูจน์หรืออ้างอิงได้
ด้านนายนิพนธ์ นาคสมภพ ประธานคณะอนุกรรมาธิการสิทธิเสรีภาพ ด้านสื่อสารมวลชนและสื่อสาธารณะ กล่าวว่า นอกจากยื่นหนังสือถึง กสทช.แล้ว ยังติดตามความคืบหน้าในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. … ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวได้นาส่งไปยังคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแล้ว และเมื่อคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเสร็จ จะนำส่งกลับไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา อีกครั้ง คาดว่าร่างพระราชบัญญัติข้างต้น สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาเสร็จสิ้นในช่วงเปิดประชุมสามัญนี้ (ภายในเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม 2563) .-สำนักข่าวไทย