หลายพื้นที่อากาศเริ่มหนาว

เชียงใหม่ 23 ต.ค.-สภาพอากาศในเชียงใหม่ มีหมอกลงบางพื้นที่ ตัวเมืองอุณหภูมิ 20-24 องศาฯ ส่วนที่ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก ช่วงเช้าอุณหภูมิอยู่ที่ 15 องศาฯ มีหมอกปกคลุม


สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีหมอกลงบางพื้นที่ ในตัวเมืองเชียงใหม่ อุณหภูมิ 20-24 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยอินทนนท์จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิ 11 องศาเซลเซียส มีหมอกลงหนาจัด ระยะการมองเห็นลดลง ทัศนวิสัยไม่ดี ต้องใช้ความระมัดระวัง ในการใช้รถใช้ถนน ส่วนเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ มีหมอกลง บริเวณจุดชมวิว นักท่องเที่ยวพากันขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูง ตัวเมืองเชียงใหม่ แต่มองไม่เห็น หมอกลงจัด

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานว่าวันนี้ความกดอากาศสูงจากจีน แผ่ปกคุมภาคอีสานและภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือมีฝนน้อยลง อุณหภูมิลดลง 1–2 องศา เชียงใหม่อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่ เตือนประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ จากสภาพอากาศ ที่แปรปรวนระยะนี้


ส่วนพื้นที่บ้านใหม่ร่องกล้า ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก หมู่บ้านใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สภาพอากาศในช่วงเช้า อุณหภูมิอยู่ที่ 15 องศาฯ ช่วงกลางคืนอยู่ที่ 14 องศาฯ และตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีหมอกปกคลุมรอบหมู่บ้านทั้งวัน ผู้นำหมู่บ้าน ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านเตรียมอุปกรณ์กันหนาวและดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศหนาวเย็นลงแล้ว สำหรับปีนี้ คาดว่าอากาศจะหนาวเย็นลงอีกน่าจะมีอุณหภูมิลงลดเหลือเพียงเลขตัวเดียว และเตรียมลุ้นว่าจะเกิดปรากฏการณ์แม่คะนิ้งที่บ้านใหม่ร่องกล้า เหมือนทุกปีที่ผ่านมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการวันแรกแล้ว วานนี้ (22 ต.ค.) โดยฤดูหนาวเกิดจากลักษณะลมเปลี่ยนทิศระดับล่างของลมตะวันออกเฉียงใต้ และอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของสถานีต่างๆ ที่ตรวจวัดอุณหภูมิ ภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง ตะวันออก อุณหภูมิต่ำกว่า 23 องศาเซลเซียส คือ อยู่ในเกณฑ์ของอากาศเย็นต่อเนื่อง และฝนเบาลง จะเป็นการประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวของไทย อย่างเป็นทางการ ในช่วงของประกาศนี้ต้นฤดูหนาวอากาศยังคงแปรปรวน บางจุดบางบริเวณอาจจะเจอฝนตกได้ในบางพื้นที่ของประเทศไทยตอนบน แต่ทางภาคใต้จะเป็นการเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน แล้วฝนจะตกต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยที่พิจารณาองค์ประกอบชัดเจน สำหรับในปีนี้อากาศจะเย็นชื้น มีฝนได้บ้างบางช่วง อย่างตอนนี้ก็มีพายุอยู่ในทะเลจีนใต้ตอนกลาง การเคลื่อนตัวมาทิศทางตะวันตก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเคลื่อนเข้ามาทางไหน ต้องประเมินวันที่ 25-27 ต.ค.นี้ จะเห็นทิศทางพายุชัดเจนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว