กรุงเทพฯ 9 ต.ค. – สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนกันยายนอยู่ในโซนซบเซา กังวลเศรษฐกิจถดถอย-การเมืองในประเทศ
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน เดือนกันยายน 2563 พบว่า ในอีก 3 เดือนข้างหน้าความเชื่อมั่นนักลงทุนยังอยู่ในเกณฑ์ซบเซาต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยนักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงความคาดหวังการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ รองลงมาคือสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ รวมถึงการระบาดระลอก 2 ของโควิด-19 หลายประเทศ
โดยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนรายกลุ่ม พบว่า นักลงทุนบุคคลปรับตัวลงเล็กน้อยอยู่ในระดับ “ทรงตัว” ความเชื่อมั่นของกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในระดับ “ทรงตัว” ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับตัวลดลงอยู่ในระดับ “ซบเซา” และความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับ “ซบเซา”
ขณะที่ SET index เดือนกันยายน 2563 ปิดที่ 1,237.04 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 5.62% จากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน อาทิ ข่าวการหยุดชะงักของโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีในหลายประเทศปรับลงแรง ข่าวสถาบันการเงินของไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการโอนเงินที่น่าสงสัย สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยนโยบายที่ี่ระดับ 0-0.25% จนถึงปี 2566 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐและมาตรการภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
ทั้งนี้ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การกลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้งของโควิด-19 จนต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์หลายประเทศ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ- จีนที่เพิ่มมากขึ้น การเจรจา Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (อียู) การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ใกล้เข้ามา ส่วนปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลจากการอนุมัติให้บุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร รวมถึงเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA) ปัญหาการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์การเมืองในประเทศที่ร้อนแรงขึ้น และผลจากการกลับมาเริ่มใช้เกณฑ์ปกติ “Short Selling – Ceiling & Floor” ของ SET และ TFEX.-สำนักข่าวไทย