นนทบุรี 8 ต.ค. – เปิดใจสาววัย 37 ปี ประสบอุบัติเหตุรถตกเขา บาดเจ็บหลังหัก ขาหัก นอนกับพื้นธนาคารรอเซ็นเอกสารเปิดบัญชีสำหรับใช้เคลมประกันอุบัติเหตุที่ซื้อไว้
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สุภาพร พงศ์สราภี โพสต์ข้อความว่า “ดูสภาพอนาถขนาดไหน ต้องมานอนพื้นเพื่อรอเปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปากเกร็ด เพื่อรอยื่นเอกสารประกันของธนาคาร มันเกินไปไหม คนไข้นั่งไม่ได้ หลังหัก ขาหัก ใส่เหล็กที่ขา แต่พนักงานบอกว่าต้องถ่ายรูปและเซ็นเอกสาร โดยให้มานอนรอที่พื้นแบบนี้ ระบบประกันธนาคารคุณให้บริการแบบนี้หรา เพื่อนๆ ช่วยกันแชร์หน่อย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เขาจะได้รู้ว่าให้บอการแบบนี้” หลังโพสต์ดังกล่าวมีการแชร์ภาพและข้อความลงไปในโลกออนไลน์ มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมแบบทัวร์ลง ต่างพากันคอมเมนต์ด่าธนาคารที่ไม่น่าทำกับลูกค้าแบบนี้
บ่ายวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังห้องเช่าแห่งหนึ่ง หลังเทศบาลนครปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบกับ น.ส.สุภาพร พงษ์สราภี หรือน้องแจง อายุ 37 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก กำลังนอนอยู่ในสภาพพักฟื้น บาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง โดยมีแม่และญาติๆ เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งน้องแจงเองยังไม่สามารถลุกเดินหรือนั่งเองได้ เพราะประสบอุบัติเหตุมา
น้องแจงเล่าว่า ประสบอุบัติเหตุรถตกเขาตอนไปเที่ยวดอยอ่างข่าง จ.เชียงใหม่ ได้รับบาดเจ็บ ทั้งหลังหัก ขาหัก ใส่เหล็กที่ขา ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ต้องนอนรักษาตัวนานหลายเดือน ตนเองซื้อประกันกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเกาะพะงัน โดยจ่ายเบี้ยปีละ 2,800 บาท เมื่อประสบอุบัติเหตุจะได้ 25,000 บาทต่อครั้ง ได้เงินชดเชยวันละ 1,000 บาท แต่ไม่ได้เปิดบัญชีของธนาคารไว้ จึงให้คุณแม่กับลูกพี่ลูกน้อง นำบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านบัตรที่ซื้อประกันอุบัติเหตุ ไปติดต่อขอเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปากเกร็ด แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่าเจ้าตัวต้องมาเอง
แม้คุณแม่จะพยายามชี้แจงว่ามาแล้ว นอนอยู่ในรถ ลงมาไม่ได้ เพราะหลังหัก ขาหัก ธนาคารก็ยังยืนยันต้องมาเอง จนแม่และพี่ต้องมาอุ้มตนเองมาที่ธนาคารและนอนอย่างที่เห็น เจ้าหน้าที่ยังมาบอกอีกให้ลุกนั่งมาเซ็นเอกสาร ตนก็บอกลุกไม่ได้ เขายังตะคอกชี้หน้าบอกให้ลุก แล้วหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปตน ตอนนั้นรู้สึกอายมาก เพราะมีคนเข้าออกตลอดเวลา หลังจากนั้นตนก็ให้แม่ถ่ายคลิปไว้ เจ้าหน้าที่จึงยอมมาเจรจาและบอกว่าไม่ต้องเปิดบัญชีก็ได้ ใช้บัญชีแม่ตนเองได้เลย
น้องแจงเล่าอีกว่า รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการให้บริการ ทั้งๆ ที่แม่ของตนได้แจ้งกับทางธนาคารแล้วว่าหลังหัก นั่งไม่ได้ รบกวนให้เอาเอกสารมาให้เซ็นที่รถได้ไหม เพราะต้องรีบใช้บัญชีไปเคลมประกัน เพราะจะได้มีค่าใช้จ่ายในการไปล้างแผล แต่ทางธนาคารแจ้งว่าไม่มีนโยบายให้พนักงานไปบริการที่รถ พนักงานผู้หญิงก็ชี้หน้าแล้วพูดกับตนไม่ดี สั่งให้ตนนั่ง ซึ่งตนนั่งไม่ได้ แม่เลยเอาผ้าปูที่พื้นและให้ตนนอนรอ เพื่อให้ทางธนาคารถ่ายรูปและเปิดบัญชี ตนนอนรอที่พื้นด้วยความเจ็บปวดทั้งกายและใจ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็มองตนแบบสมเพช ตนก็รู้สึกอาย เสียเกียรติ เสียชื่อเสียง คนในละแวกนี้รู้จักตนหมด เพราะตนเป็นคนปากเกร็ด
เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น เพราะวันรุ่งขึ้นทางเจ้าหน้าที่ได้มาที่บ้าน พร้อมนำกระเช้ามาขอโทษตนเอง โดยบอกว่าเจ้าหน้าที่ที่ชี้หน้าคนนั้นรู้สึกเสียใจและนอนไม่หลับ ตนไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ขอเพียงอย่าดูคนที่ภายนอก จะมีจะจนก็คนเหมือนกัน อยากให้บริการลูกค้าด้วยความเสมอภาค และไม่อยากให้ลงโทษพนักงานคนใดๆ
ด้านลูกพี่ลูกน้อง คือนายสุชาติ ฤกษ์สุทธิศิริเดช กล่าวว่า เข้าใจว่าเอกสารสำคัญต้องมีพยานด้วย แต่กรณีเคสแบบนี้ พนักงานตัดสินใจเองไม่ได้ก็ควรปรึกษาผู้จัดการว่าควรทำอย่างไร ไม่ต้องการฟ้องร้องด้วย ต้องการเพียงการบริการที่ดีกว่านี้เท่านั้น อยากให้เป็นบทเรียนให้ทางธนาคารแก้ไขทุกๆ ธนาคาร.-สำนักข่าวไทย