นนทบุรี 5 ต.ค. – พาณิชย์เผยเงินเฟ้อ ก.ย.ติดลบร้อยละ 0.70 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากราคาน้ำมันและการปรับฐานค่าเอฟที ย้ำไตรมาส 4 น่าจะปรับเพิ่มขึ้นจากแนวทางกระตุ้นภาครัฐหลายแนวทาง ชี้เงินเฟ้อทั้งปียังคงติดลบไม่มาก
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปหรืออัตราเงินเฟ้อเดือนกันยายน 2563 เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนลดลงร้อยละ 0.70 แม้จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาเล็กน้อยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะผักสดที่มีความผันผวน เนื่องจากฝนตกชุก ขณะที่ราคากลุ่มพลังงานเริ่มลดลงแต่ยังต่ำกว่าปีก่อน และการปรับฐานค่าไฟฟ้าเอฟที รวมถึงความต้องการสินค้าสุกรในตลาดต่างประเทศสูงขึ้น ส่วนสินค้าอุปโภค-บริโภคอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับปริมาณสินค้า ความต้องการ และการส่งเสริมการขาย โดยสินค้า โดยรวมไม่ได้มีการปรับขึ้นไปมากมีเพียงผักสดขึ้นเล็กน้อยตามฤดูกาลไม่ผิดปกติไปมากนัก
อย่างไรก็ตาม เหตุผลหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อเริ่มติดลบต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยมาจากการคลายล็อกภาคธุรกิจต่าง ๆ จากปัญหาความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 แต่ขณะนี้ความกังวลดังกล่าวน้อยลงส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมเริ่มปรับดีขึ้น เห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อเริ่มติดลบน้อยลง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ การจัดโปรโมชั่นด้านราคาสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ เริ่มลดน้อยลงและอีกหลายปัจจัย ส่งผลทำให้เงินเฟ้อทั่วไป 9 เดือนปี 2563 (ม.ค.- ก.ย.) ลดลงร้อยละ 0.99 เท่านั้น
ทั้งนี้ สนค.มองว่าจากปัจจัยลบด้านโควิดที่ยังเป็นตัวฉุดความกังวลต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนและกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยรวมอยู่บ้าง ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสที่ 4 หรือ 3 เดือนสุดท้ายปี 2563 คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยแต่ละเดือนจะปรับตัวดีขึ้นมาบ้าง โดยจะมาจากมาตรการภาครัฐที่กำลังออกมาทั้งการให้เงินสู่ประชาชนบางกลุ่มจะทำให้กระตุ้นภาคเศรษฐกิจในการจับจ่ายใช้สอยด้านต่าง ๆ อีกด้วย จึงคาดว่าเงินเฟ้อปีนี้จะติดลบร้อยละ 1.5-0.7 โดยมีค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 1.1 ซึ่งมีปัจจัย คือ จีดีพีของประเทศติดลบร้อยละ 7.6-8.6 อัตราแลกเปลี่ยน 30.5-32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 35-45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย