ศาลอาญา 29 ก.ย.- ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิพากษาจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา อดีตอธิบดีกรมการปกครอง อดีตผอ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ157 ทุจริตการสอบนายอำเภอปี 52 ส่วนผู้เข้าสอบ 103 คน โดนคุกระนาวคนละ2ปีปรับ1.2หมื่นบาท แต่รอลงอาญา 2 ปี
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ซอยสีคาม ถ.นครชัยศรี ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง จำเลยที่ 1 นายสำราญ ตันเรืองศรี อดีต ผ.อ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านจำเลยที่ 2 นายครรชิต สลับแสง อดีตเลขานุการกรมการปกครองจำเลยที่ 3 กับพวกรวม 119 คน (จำเลยที่ 4-119 เป็นผู้สอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ มีนายคิม ปรีเปรม อดีตเลขานุการส่วนตัวของอดีตอธิบดีกรมการปกครองเป็นจำเลยที่ 117)
คำฟ้องระบุว่า ระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองและจำเลยที่ 2 ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน สำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต โดยมีจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 119 ร่วมช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำผิด กล่าวคือ จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกับนายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ซึ่งมีหน้าที่จัดระบบและบริหารงานบุคคล ตลอดจนรับผิดชอบการคัดเลือกข้าราชการเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ในขณะนั้น
วางแผนและกระทำการช่วยเหลือผู้เข้าทดสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 ตามรายชื่อจำนวน 150 รายชื่อที่ จำเลยที่ 3 นำมาให้เป็นผู้ผ่านการทดสอบคัดเลือก ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของผู้มีอำนาจการเมืองขณะนั้น โดยจำเลยที่ 1 และนายวุฒิชัย ซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัยได้ทำการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ภาคความรู้ ความสามารถทั่วไปที่นายวุฒิชัย เป็นผู้ออกข้อสอบข้อหนึ่ง และคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกข้อสอบอีกข้อหนึ่ง เพื่อใช้ในการทดสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 เพื่อให้จำเลยที่ 2 และนายวุฒิชัยจะได้เป็นผู้มีหน้าที่ในการตรวจข้อสอบ
ต่อมาเมื่อการทดสอบคัดเลือกแล้วเสร็จ นายวุฒิชัย โดยการรู้เห็นสั่งการของจำเลยที่ 1 ได้นำข้อสอบอัตนัยมาเก็บรักษาไว้ ตามอำนาจหน้าที่ของตน จากนั้นนายวุฒิชัย ได้ร่วมกับจำเลยที่ 3 ทำการจัดเรียงลำดับรายชื่อ จำนวน 150 รายชื่อดังกล่าวข้างต้น ให้เป็นผู้ผ่านการทดสอบเพื่อให้ได้ลำดับและรุ่นที่เข้าอบรมตามความต้องการของผู้มีอำนาจการเมือง นายวุฒิชัย ได้จัดทำเอกสารการลงคะแนนวิชาภาคความรู้ความสามารถทั่วไป โดยนายวุฒิชัยเป็นผู้ลงนามรับรองคะแนนในฐานะเป็นผู้ตรวจให้คะแนน และจัดทำเอกสารการลงคะแนนวิชาภาคความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่งไปให้จำเลยที่ 2 ซึ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจข้อสอบอัตนัยข้อวิชาความรู้ความสามารถ เฉพาะตำแหน่งที่ตนเป็น ผู้ออกข้อสอบ ทำการตรวจข้อสอบและกรอกคะแนนที่ได้จากการตรวจข้อสอบลงในเอกสารดังกล่าว
แต่จำเลยที่ 2 กลับกระทำโดยมิชอบลงชื่อรับรองเป็นหลักฐานว่าตนเป็นผู้ทำการตรวจข้อสอบในเอกสารการลงคะแนนทั้งที่ตนไม่ได้ทำการตรวจข้อสอบจริง ตามที่ได้รับมอบหมายแต่อย่างใด จากนั้นส่งมอบคืนให้นายวุฒิชัย นำกลับไปใช้กรอกข้อความลงคะแนนเท็จ ช่วยให้ผู้เข้าทดสอบที่มีรายชื่อจำนวน 150 คน จนได้รับการคัดเลือกเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 รุ่นที่ 68, 69 และ 70 ตรงตามที่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้วางแผนร่วมกับนายวุฒิชัย อันเป็นการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นอันเป็นเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ ทั้งนี้เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้เข้าทำการทดสอบที่มีรายชื่อจำนวน 150 คน ให้ผ่านการคัดเลือกเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552
ภายหลังจากมีการประกาศรายชื่อบุคคลผู้ผ่านการทดสอบและผู้ผ่านการทดสอบอยู่ระหว่างทำการอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 68, 69 และรุ่นที่ 70 อยู่นั้น จำเลยที่ 1 และนายวุฒิชัย ได้ร่วมกันวางแผนและกระทำการปกปิดการกระทำผิด โดยจำเลยที่ 1 สั่งการให้จำเลยที่ 117 ตัวแทนรุ่นที่ 68 จำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ตัวแทนรุ่นที่ 69 และจำเลยที่ 103 ตัวแทนรุ่นที่ 70 มารับตัวอย่างคำตอบข้อสอบอัตนัยวิชาความรู้ความสามารถทั่วไปและวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง จำนวนหลายแบบและสมุดกระดาษคำตอบเปล่าที่เหลือจากการทดสอบ จากนายวุฒิชัยเพื่อนำไปให้ผู้ที่เข้าศึกษาอบรมในรุ่นที่ 68, 69 และ 70 ที่อยู่ในรายชื่อที่ได้รับการช่วยเหลือให้ผ่านการทดสอบ จำนวน 150 รายชื่อ ทำการเขียนคำตอบขึ้นใหม่ลงใน-สมุดกระดาษคำตอบเปล่าโดยจำเลยที่ 117 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 118 และจำเลยที่ 4 ถึงจำเลยที่ 49 รวมถึงตนเอง ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 68 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่างที่รับมาลงในสมุดกระดาษคำตอบเปล่า
ส่วนจำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 50 ถึงจำเลยที่ 75 และจำเลยที่ 77 ถึงจำเลยที่ 88 รวมถึงตัวจำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 69 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่าง ที่รับมาลงในกระดาษคำตอบเปล่า ส่วนจำเลยที่ 103 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 89 ถึงจำเลยที่ 102 และจำเลยที่ 104 ถึงจำเลยที่ 116 และนายชูชีพ มหโชค ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง รวมถึงตนเองซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 70 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่างที่รับมาลงในกระดาษ คำตอบเปล่าด้วยเช่นกัน จากนั้นจำเลยที่ 117 จำเลยที่ 76 และจำเลยที่ 103 ได้ทำการรวบรวมกระดาษคำตอบซึ่งเขียนขึ้นใหม่ดังกล่าว มามอบให้แก่นายวุฒิชัย
นายวุฒิชัย อาศัยโอกาสที่ตนเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแล รักษาเอกสารกระดาษสมุดคำตอบด้วยความรู้เห็นสั่งการของจำเลยที่ 1 ได้กระทำการปลอมเอกสารกระดาษคำตอบโดยนำกระดาษคำตอบต้นฉบับจริงที่ได้จากการทดสอบออกจากปกสมุดคำตอบ แล้วนำกระดาษคำตอบที่เขียนคำตอบขึ้นใหม่ซึ่งรับมาจากจำเลยที่ 117 และจำเลยที่ 76 กับจำเลยที่ 103 มาใส่แทนที่กระดาษคำตอบต้นฉบับจริง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่มาตรวจสอบสมุดคำตอบหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อทุจริตการสอบ เชื่อว่าสมุดคำตอบเป็นสมุดคำตอบที่แท้จริงที่ทำขึ้นโดย จำเลยที่ 4 ถึงจำเลยที่ 119 และนายชูชีพ มหโชค ในขณะที่มีการทดสอบจริงอันเป็นการปลอมเอกสารสมุดคำตอบโดยมิชอบต่อกฎหมาย
การกระทำของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และนายวุฒิชัย เสาวโกมุท เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต ตลอดจนปลอมแปลงเอกสารและทำเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่กรมการปกครองและบุคคลอื่นที่เข้าทำการทดสอบแต่ไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 รวมถึงบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยมีจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 119 และนายชูชีพ มหโชค ซึ่งมิใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด เหตุเกิดที่ กรมการปกครอง แขวงราชบพิธ เขตพระนคร และเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร, ค่ายธนะรัชต์ ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, วิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี, ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157, 161,162
โดยศาลพิเคราะห์เเล้วมีคำพิพากษาจำคุกอดีตอธิบดีกรมการปกครอง จำเลยที่ 1 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ,ป.อ.มาตรา 161 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสารทำการปลอมเอกสารฯ,ป.อ.มาตรา 162 (1) (4) ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารฯ ซึ่งได้กระทำการด้วยการรับรองอันเป็นเท็จฯ ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักสุด ให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษ
สำหรับ อดีตผอ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกรมการปกครอง จำเลยที่ 2 ผิดตามป.อ. มาตรา 157,162 (1) (4) ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ที่เป็นบทหนักสุด จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษเช่นกัน
ส่วน อดีตเลขานุการกรมฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกรมการปกครอง จำเลยที่3 ผิดตามป.อ.มาตรา 157,162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิด จึงให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอการลงโทษ ฐานสนับสนุน ตาม มาตรา157, 86
กลุ่มประธานรุ่นและเลขารุ่นที่ไปช่วยเปลี่ยนข้อสอบ ซึ่งประกอบด้วย จำเลยที่ 48,76,103,117,119 พิพากษาลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดตามป.อ.มาตรา 157,162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 ให้จำคุกคนละ 2 ปี ไม่รอการลงโทษ ฐานสนับสนุนตามมาตรา157 ,86 อันเป็นบทหนักสุด
และกลุ่มผู้เข้าสอบที่ไม่ยอมรับว่ามีการเขียนข้อสอบใหม่ รวม 103 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 4-6,8-18,20-39,41-47,49-72,74-75,78-79,81-102,104,106-116,118 มีความผิดตามฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดตามป.อ.มาตรา 157 ,161 ประกอบมาตรา 86 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนันสนุนกระทำความผิดตามมาตรา 157 ประกอบ 86 จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 12,000 บาท โดยโทษจำคุกนั้น ให้รอการลงโทษไว้กำหนดคงละ 2 ปี
และพิพากษายกฟ้อง จำเลยที่ 7,37,40,73,77,80,105 ที่เป็นผู้เข้าสอบนั้นพยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิด.-สำนักข่าวไทย