ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่ง “เสี่ยเฮ้ง” แก้ฟ้องให้ครบประเด็น คดียื่นฟ้องอธิบดีดีเอสไอกับพวก

กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่ง “เสี่ยเฮ้ง” เเก้ฟ้องให้ครบประเด็นชี้ช่องพฤติการณ์ คดียื่นฟ้องอธิบดีดีเอสไอกับพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กลั่นเเกล้งให้ได้รับโทษ คดีถูกกล่าวหาหักหัวคิวแรงงานไปฟินแลนด์ ส่งหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษชี้เเจงประเด็นถูกฟ้องด้วย ฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องอีกครั้ง 9 เม.ย.


เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชั่น ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องในคดี หมายเลขดำที่ อท.11/2567 ที่นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยกลุ่ม สส.14 คน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมายื่นฟ้อง อดีตอธิบดีดีเอสไอ รักษาการณ์อธิบดีดีเอสไอ เเละผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ของดีเอสไอ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เเละข้อกล่าวหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แถลงเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มีมติกล่าวหา อดีต รมว. 2 คน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน 2 คน รวม 4 คน ในความผิด มาตรา 149 และ 157 หลังพบหลักฐานเชื่อมโยง เกี่ยวข้องกับการค่าหักหัวคิว แรงงานที่ไปเก็บผลไม้ป่าที่ ประเทศฟินแลนด์ จำนวน 12,000 คน ระหว่าง ปี 2563-2566 คนละ 3,000 บาท รวมค่าเสียหาย 36 ล้านบาท ซึ่งการแถลงข่าวในครั้งนั้นทำให้วันที่ 12 มกราคม นายสุชาติ ออกมาโต้กลับดีเอสไอให้นำหลักฐานการเงินออกมาชี้แจงและการที่มาตั้งข้อหาแต่ไม่เคยถูกเรียกสอบปากคำ และการแถลงข่าวของ ดีเอสไอในครั้งนั้น ทำให้ นายสุชาติ ได้รับความเสียหาย


การนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันนี้ โจทก์ ทนายโจทก์ และผู้รับมอบอำนาจจำเลยที่ 3 มาศาล

พิเคราะห์คำฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157มาตรา 173มาตรา 174วรรค 2และมาตรา 200 วรรค 2 แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้ครบถ้วนตาม ป.วิอาญามาตรา 158 ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และให้แจ้งชัดว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดโดยมีพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่า กระทำความผิดอย่างไร ทั้งมิได้ชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้ จึงให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามกับให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

1.โจทก์บรรยายฟ้องว่า การที่จำเลยที่ 2ในฐานะผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำรายงานเสนอต่อจำเลยที่ 1ในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้มีการกล่าวโทษโจทก์กับพวกต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช. จากนั้นจำเลยที่ 1 ได้มีหนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลับ ลงวันที่ 31 ต.ค.66 ถึง ป.ป.ช. กล่าวหาว่า โจทก์กับพวกได้ร่วมกันหรือให้กา สนับสนุน น.ส.กัลยกร หรือทุเรียน พงษ์พิศ เรียกรับเงินจากบริษัท เรอบัน จำกัด และจากบริษัทตัวแทนผู้ประสานงานรายอื่นอีกด้วย นั้น ให้โจทก์บรรยายฟ้องให้ชัดแจงว่า การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการปฏิบัติหน้าที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กฎ ประกาศ ระเบียบข้อบังคับ ข้อกำหนด ข้อบัญญัติ หรือคำสั่งใด ๆ ในบทบัญญัติมาตราใดหรือข้อใด หรือแนวทางปฏิบัติใด อย่างไร เว้นแต่กรณีดังกล่าวโจทก์บรรยายฟ้องเพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่า จำเลยที่ 2มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแถลงข่าวอันเป็นเท็จของจำเลยที่ 2และที่ 3ที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ก็ให้โจทก์บรรยายให้ชัดแจ้ง


2.ให้โจทก์บรรยายฟ้องให้ชัดแจ้งว่า ข้อความที่จำเลยทั้งสามแจ้งนั้น ข้อความอย่างใด เป็นความเท็จ อย่างใดเป็นความจริงหรือความจริงเป็นอย่างไร จำเลยทั้งสามทราบดีอย่างไรว่าไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะกล่าวหาโจทก์ได้ และโจทก์ทราบได้อย่างไรว่าจำเลยทั้งสามรู้อยู่แล้วว่าโจทก์ไม่ได้กระทำความผิด พร้อมทั้งให้ชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่ามีพยานหลักฐานใดที่สนับสนุนหรือแสดงให้เห็นถึงการกระทำและพฤติการณ์เช่นนั้นของจำเลยและให้เพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้

อนึ่ง เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำการอันเป็นความผิดต่อกฎหมายโดยปฏิบัติฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ขอให้ศาลลงโทษจำเลย อันแสดงให้เห็นว่าโจทก์ต้องทราบถึงความมีอยู่หรือไม่มีอยู่ของการกระทำอันเป็นความผิดตามฟ้องโจทก์ ตลอดจนบทบัญญัติแห่งประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด หรือคำสั่งใด ๆ เช่นว่านั้น เห็นควรให้โจทก์จัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องอันสนับสนุนข้อเท็จจริงตามที่อ้างในคำบรรยายฟ้องโจทก์ และเนื้อหาข่าวตามเอกสารท้ายฟ้องซึ่งโจทก์ยื่นแนบมาไม่ครบถ้วน รวมทั้งพยานหลักฐานอื่น (หากมี) ต่อศาลให้ครบถ้วนพร้อมคำฟ้องที่แก้ไขเพิ่มเติม หากโจทก์ไม่แก้ฟ้องหรือแก้ฟ้องเข้ามาภายในกำหนดแล้ว ศาลจะถือว่าข้อเท็จจริงตามที่บรรยายมาในฟ้องหรือฟ้องที่แก้ไขแล้ว พยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้ชี้ช่องไว้ เป็นข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของจำเลยที่โจทก์ประสงค์จะนำเสนอในชั้นไต่สวนมูลฟ้องทั้งนี้ ให้โจทก์แก้ฟ้องโดยให้จัดทำเป็นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องระบุข้อความเพิ่มเติมในประเด็นตามคำสั่งยื่นต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันนี้ หากมีพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวให้โจทก์ส่งครบถ้วน หากโจทก็ไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลในข้อหนึ่งข้อใดดังที่กล่าวมาข้างต้น ให้ถือว่าไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด ซึ่งศาลอาจมีคำสั่งไม่รับฟ้อง

ให้มีหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมแนบสำเนาคำฟ้องคดีนี้ไปพร้อมกับหนังสือสอบถาม เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ข้อมูล ตามที่ปรากฎในคำฟ้องว่าในช่วงที่มีการลงประกาศแถลงข่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษและขณะที่มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีตามฟ้อง การดำเนินการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนใด การสอบสวนดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วเสร็จเมื่อใด เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงและจัดส่งข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อศาลอาญา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายในวันที่ 11 มี.ค.67 ให้โจทก์ตรวจสำนวนเพื่อตรวจดูหนังสือชี้แจงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

หากโจทก์ประสงค์จะโต้แย้งหรือคัดค้านข้อเท็จจริงหรือข้อมูลดังกล่าวให้ยื่นคำแถลงต่อศาลภายในวันที่ 26 มี.ค.67 ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาและกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 09.30 น.-413-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]