กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่ง “เสี่ยเฮ้ง” เเก้ฟ้องให้ครบประเด็นชี้ช่องพฤติการณ์ คดียื่นฟ้องอธิบดีดีเอสไอกับพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กลั่นเเกล้งให้ได้รับโทษ คดีถูกกล่าวหาหักหัวคิวแรงงานไปฟินแลนด์ ส่งหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษชี้เเจงประเด็นถูกฟ้องด้วย ฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องอีกครั้ง 9 เม.ย.
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชั่น ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องในคดี หมายเลขดำที่ อท.11/2567 ที่นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยกลุ่ม สส.14 คน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมายื่นฟ้อง อดีตอธิบดีดีเอสไอ รักษาการณ์อธิบดีดีเอสไอ เเละผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ของดีเอสไอ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เเละข้อกล่าวหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แถลงเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มีมติกล่าวหา อดีต รมว. 2 คน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน 2 คน รวม 4 คน ในความผิด มาตรา 149 และ 157 หลังพบหลักฐานเชื่อมโยง เกี่ยวข้องกับการค่าหักหัวคิว แรงงานที่ไปเก็บผลไม้ป่าที่ ประเทศฟินแลนด์ จำนวน 12,000 คน ระหว่าง ปี 2563-2566 คนละ 3,000 บาท รวมค่าเสียหาย 36 ล้านบาท ซึ่งการแถลงข่าวในครั้งนั้นทำให้วันที่ 12 มกราคม นายสุชาติ ออกมาโต้กลับดีเอสไอให้นำหลักฐานการเงินออกมาชี้แจงและการที่มาตั้งข้อหาแต่ไม่เคยถูกเรียกสอบปากคำ และการแถลงข่าวของ ดีเอสไอในครั้งนั้น ทำให้ นายสุชาติ ได้รับความเสียหาย
การนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันนี้ โจทก์ ทนายโจทก์ และผู้รับมอบอำนาจจำเลยที่ 3 มาศาล
พิเคราะห์คำฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157มาตรา 173มาตรา 174วรรค 2และมาตรา 200 วรรค 2 แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้ครบถ้วนตาม ป.วิอาญามาตรา 158 ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และให้แจ้งชัดว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดโดยมีพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่า กระทำความผิดอย่างไร ทั้งมิได้ชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้ จึงให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามกับให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.โจทก์บรรยายฟ้องว่า การที่จำเลยที่ 2ในฐานะผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำรายงานเสนอต่อจำเลยที่ 1ในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้มีการกล่าวโทษโจทก์กับพวกต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช. จากนั้นจำเลยที่ 1 ได้มีหนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลับ ลงวันที่ 31 ต.ค.66 ถึง ป.ป.ช. กล่าวหาว่า โจทก์กับพวกได้ร่วมกันหรือให้กา สนับสนุน น.ส.กัลยกร หรือทุเรียน พงษ์พิศ เรียกรับเงินจากบริษัท เรอบัน จำกัด และจากบริษัทตัวแทนผู้ประสานงานรายอื่นอีกด้วย นั้น ให้โจทก์บรรยายฟ้องให้ชัดแจงว่า การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการปฏิบัติหน้าที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กฎ ประกาศ ระเบียบข้อบังคับ ข้อกำหนด ข้อบัญญัติ หรือคำสั่งใด ๆ ในบทบัญญัติมาตราใดหรือข้อใด หรือแนวทางปฏิบัติใด อย่างไร เว้นแต่กรณีดังกล่าวโจทก์บรรยายฟ้องเพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่า จำเลยที่ 2มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแถลงข่าวอันเป็นเท็จของจำเลยที่ 2และที่ 3ที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ก็ให้โจทก์บรรยายให้ชัดแจ้ง
2.ให้โจทก์บรรยายฟ้องให้ชัดแจ้งว่า ข้อความที่จำเลยทั้งสามแจ้งนั้น ข้อความอย่างใด เป็นความเท็จ อย่างใดเป็นความจริงหรือความจริงเป็นอย่างไร จำเลยทั้งสามทราบดีอย่างไรว่าไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะกล่าวหาโจทก์ได้ และโจทก์ทราบได้อย่างไรว่าจำเลยทั้งสามรู้อยู่แล้วว่าโจทก์ไม่ได้กระทำความผิด พร้อมทั้งให้ชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่ามีพยานหลักฐานใดที่สนับสนุนหรือแสดงให้เห็นถึงการกระทำและพฤติการณ์เช่นนั้นของจำเลยและให้เพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้
อนึ่ง เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำการอันเป็นความผิดต่อกฎหมายโดยปฏิบัติฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ขอให้ศาลลงโทษจำเลย อันแสดงให้เห็นว่าโจทก์ต้องทราบถึงความมีอยู่หรือไม่มีอยู่ของการกระทำอันเป็นความผิดตามฟ้องโจทก์ ตลอดจนบทบัญญัติแห่งประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด หรือคำสั่งใด ๆ เช่นว่านั้น เห็นควรให้โจทก์จัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องอันสนับสนุนข้อเท็จจริงตามที่อ้างในคำบรรยายฟ้องโจทก์ และเนื้อหาข่าวตามเอกสารท้ายฟ้องซึ่งโจทก์ยื่นแนบมาไม่ครบถ้วน รวมทั้งพยานหลักฐานอื่น (หากมี) ต่อศาลให้ครบถ้วนพร้อมคำฟ้องที่แก้ไขเพิ่มเติม หากโจทก์ไม่แก้ฟ้องหรือแก้ฟ้องเข้ามาภายในกำหนดแล้ว ศาลจะถือว่าข้อเท็จจริงตามที่บรรยายมาในฟ้องหรือฟ้องที่แก้ไขแล้ว พยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้ชี้ช่องไว้ เป็นข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของจำเลยที่โจทก์ประสงค์จะนำเสนอในชั้นไต่สวนมูลฟ้องทั้งนี้ ให้โจทก์แก้ฟ้องโดยให้จัดทำเป็นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องระบุข้อความเพิ่มเติมในประเด็นตามคำสั่งยื่นต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันนี้ หากมีพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวให้โจทก์ส่งครบถ้วน หากโจทก็ไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลในข้อหนึ่งข้อใดดังที่กล่าวมาข้างต้น ให้ถือว่าไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด ซึ่งศาลอาจมีคำสั่งไม่รับฟ้อง
ให้มีหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมแนบสำเนาคำฟ้องคดีนี้ไปพร้อมกับหนังสือสอบถาม เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ข้อมูล ตามที่ปรากฎในคำฟ้องว่าในช่วงที่มีการลงประกาศแถลงข่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษและขณะที่มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีตามฟ้อง การดำเนินการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนใด การสอบสวนดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วเสร็จเมื่อใด เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงและจัดส่งข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อศาลอาญา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายในวันที่ 11 มี.ค.67 ให้โจทก์ตรวจสำนวนเพื่อตรวจดูหนังสือชี้แจงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
หากโจทก์ประสงค์จะโต้แย้งหรือคัดค้านข้อเท็จจริงหรือข้อมูลดังกล่าวให้ยื่นคำแถลงต่อศาลภายในวันที่ 26 มี.ค.67 ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาและกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 09.30 น.-413-สำนักข่าวไทย