กรุงเทพฯ 26 พ.ย.- บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานสรุปการเคลื่อนไหวเงินบาทสัปดาห์นี้( 21-25 พ.ย.)ว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 35.73 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นตัวกลับมาบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าท่ามกลางแรงขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ จากในประเทศเพิ่มเติม หลังราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลง ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ก็มีแรงหนุนจากรายงานการประชุมเฟดและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ (อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนี PMI ภาคการผลิต) ที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด และตอกย้ำโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในปีนี้ และต่อเนื่องในช่วงปีข้างหน้า ในวันศุกร์ (25 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 35.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (18 พ.ย.)
ส่วนสัปดาห์ถัดไป ( 28 พ.ย.-2 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.50-35.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาดการเงินทั่วโลกน่าจะรอจับตาสัญญาณที่อาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟด โดยเฉพาะจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI ภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) รายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย. จีดีพีไตรมาส 3/59 (รายงานครั้งที่ 2) นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามตัวเลขการส่งออกและเครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนต.ค. ของไทย ผลการประชุม OPEC และการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของอิตาลีด้วยเช่นกัน
ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้( 21-25 พ.ย.)ดัชนีหุ้นไทยปรับฟื้นตัวขึ้น ท่ามกลางแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,500.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.80% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 26.81% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 41,016.28 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 595.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.63% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อหุ้นกลับในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ จากการปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยในดัชนี MSCI และหุ้นพลังงานที่ได้รับอานิสงส์จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นปรับลดลงในวันพฤหัสบดี จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน แต่กลับมาปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้งในวันศุกร์ จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการปรับลดค่าธรรมเนียมวีซ่า
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (28 พ.ย.- 2 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,480 และ 1,455 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,510 และ 1,525 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ตลอดจนสภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายในตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/59 (รายงานครั้งที่ 2) และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ PMI ของประเทศในยูโรโซน จีน และญี่ปุ่น-สำนักข่าวไทย