กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – เงินบาทปรับตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ในช่วงประมาณ 32.92-32.97 บาท/ดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (เวลา 09.40 น.) หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 19 เดือนครึ่งที่ 32.91 บาท/ดอลลาร์ฯ เมื่อคืนวันศุกร์ กรุงไทยมองมีโอกาสแข็งค่าสัปดาห์นี้แตะ 32.60 บาท/ดอลลาร์
น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า เงินบาทแข็งค่าเป็นผลของการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ซึ่งสะท้อนว่าเฟดยังมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่องในระยะข้างหน้า แต่กรอบการแข็งค่าของเงินบาทอาจเริ่มชะลอลงบางส่วนในช่วงเช้าวันนี้ตามทิศทางของสกุลเงินเอเชีย นำโดยเงินเยนซึ่งอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น( BOJ) มีท่าทีจะยังไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.85-33.10 บาท/ดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์สกุลเงินในเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก และตัวเลข PMIs เบื้องต้นสำหรับเดือน ก.ย ของอังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น จนทะลุโซนแนวรับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ ที่ประเมินไว้ได้สำเร็จ (แกว่งตัวในกรอบ 32.90-33.15 บาท/ดอลลาร์) หนุนโดยโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High)กว่า 2,600 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ โดยราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงร้อนแรงอยู่ ขณะเดียวกันผู้เล่นในตลาดต่างคงคาดหวังว่าเฟดจะสามารถเร่งลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่าโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังมีอยู่ แต่เริ่มเห็นโอกาสที่เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้น หากเงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นจริง รวมถึงนักลงทุนต่างชาติก็เริ่มทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทยและต้องรอลุ้นรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ (Exports & Imports) เดือนสิงหาคมว่าจะออกมาอย่างไร มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.60-33.30 บาท/ดอลลาร์
“เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่น ๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward” นายพูน ระบุ. -511-สำนักข่าวไทย