กรุงเทพฯ 24 ก.ย.- ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สกัดแรงงานผิดกฎหมาย จับแรงงานกัมพูชากว่า 30 คน พบจ่ายเงินค่านายหน้า เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานในไทย
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/09/2453282.jpg)
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการสกัดแรงงานผิดกฎหมายตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถจับกุมนายหน้า และแรงงานผิดกฎหมายได้จำนวนหนึ่ง เช่น คดีที่ตำรวจสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง จับ นายอดุล ขณะขับรถตู้ดัดแปลง ขนชาวกัมพูชา 23 คน ได้ที่บริเวณแยกโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อนำส่งปลายทางจังหวัดชลบุรี นครปฐม ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร จากการสอบสวน นายอดุล สารภาพว่า รับค่าจ้างจากนายเอก เป็นเงิน 1,500 บาท / เที่ยว /คน หากงานเสร็จจะได้เพิ่มอีกตามจำนวนคนที่นำไปส่ง 100 บาท / คน ส่วนชาวกัมพูชาทั้งหมด ไม่มีหนังสือเดินทาง โดยลักลอบเข้าเมืองทางช่องทางธรรมชาติ ด้วยวิธีเดินเท้า และเสียค่าดำเนินการให้นายหน้าคนละประมาณ 5,000 บาท เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย
อีกคดีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3 ร่วมกับทหารพรานที่ 12 ขยายผลจากการจับกุมแรงงานต่างด้าวได้ก่อนหน้านี้ จนสามารถจับ นายมานะ และ นายพรมาลี สัญชาติไทย ขณะขับรถตู้ ขนชาวกัมพูชา 11 คน ได้ที่บริเวณด่านตรวจหนองสังข์ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งคนไทยทั้งสองคน สารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายทูน ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง รับจ้างขนแรงงานกัมพูชา ครั้งละ 5,000 บาทต่อเที่ยว เพื่อนำไปส่งบริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จังหวัดปทุมธานี เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ ชาวกัมพูชาทั้งหมด ให้การว่า เสียเงินค่านายหน้าคนละ 3,500 – 4,000 บาท
นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยังร่วมกับสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยใช้เวลา 2 วัน ตรวจแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น 76 ราย พบว่า ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและได้รับอนุญาตให้ทำงานถูกต้องตามกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย