ซิดนีย์ 22 ก.ย. – รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากวานนี้ เป็นผลมาจากการตรวจหาเชื้อในประชาชนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่รัฐอื่น ๆ เตรียมผ่อนคลายมาตรการปิดพรมแดนเนื่องจากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศลดลง
ทางการรัฐวิกตอเรียรายงานวันนี้ว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 28 คน เพิ่มขึ้นจากยอดผู้ป่วย 11 คนของเมื่อวานนี้ นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชาชนเพิ่มมากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขายอมรับว่า การรับมือกับโรคโควิด-19 เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งและต้องใช้เวลาอีกสักพัก เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนายังคงแฝงตัวอยู่ในผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ และก่อให้เกิดความล่าช้าในการรักษา ขณะที่ทางการออสเตรเลียระบุว่า รัฐควีนส์แลนด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียเตรียมเปิดพรมแดนให้ชาวออสเตรเลียในบางรัฐ เช่น รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย สามารถเดินทางมายังรัฐควีนส์แลนด์ได้ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าทางการออสเตรเลียสามารถควบคุมการระบาดระลอกที่ 2 ได้แล้ว
รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 2 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสู่มาตรการกักตัวแล้ว นางอนาสตาเซีย ปาลาสซัค มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์เผยว่า ทางการรัฐจะอนุญาตให้ชาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในรัฐเพื่อนบ้านบางส่วนที่มีพรมแดนติดกับรัฐควีนส์แลนด์ เช่น เขตปกครองท้องถิ่นไบรอนไชร์ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ให้เดินทางเข้ารัฐควีนส์แลนด์ได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่นายสตีเวน มาร์แชล มุขมนตรีรัฐเซาท์ออสเตรเลียระบุว่า เตรียมอนุญาตให้ชาวรัฐนิวเซาท์เวลส์เดินทางเข้ารัฐเซาท์ออสเตรเลียได้โดยไม่ต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว 14 วันตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้. – สำนักข่าวไทย