กรุงเทพฯ 20 ก.ย. – สัตวแพทย์พิสูจน์ซากลูกช้างหลงแม่ใกล้อุทยานน้ำหนาวฯ พบเศษดินและหินอุดทางเดินอาหาร คาดกินเข้าไปขณะพลัดหลงจากแม่
นายสุทิน พรหมปลัด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงลูกช้างป่าพลัดหลงแม่บริเวณน้ำหนาวเสียชีวิต ว่า คณะสัตวแพทย์ผ่าชันสูตรซากลูกช้างป่าพบเศษดินและก้อนหินทางเดินอาหาร มีเลือดออกและจุดเนื้อตายในทางเดินอาหาร เกิดการเสื่อมสภาพและเนื้อตายในไต ตับ ม้าม เลือดออกในปอด หัวใจมีการขยายขนาดเพิ่มขึ้น พบของเหลวในถุงหุ้มหัวใจประมาณ 50 มิลลิลิตร พบเศษดินและหินในทางเดินอาหารประมาณ 300 กรัม น้ำในทางเดินอาหารประมาณ 30 ลิตร ส่วนสาเหตุการตายเกิดจากการกินเศษดินและก้อนหินในทางเดินอาหารระหว่างพลัดหลงกับแม่ ทำให้เกิดการอุดตันอาหารและน้ำไม่สามารถไหลผ่านได้ จึงเกิดการติดเชื้อ ท้องอืดและกดการหายใจ
ทั้งนี้ คณะสัตวแพทย์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้ดูแลและช่วยชีวิตลูกช้างเพศผู้ อายุประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งพลัดหลงจากโขลงบริเวณป่าไร่ข้าวโพดของชาวบ้านห้วยระหงส์ ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก พื้นที่ติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน โดยให้น้ำเกลือและอนุบาลอย่างใกล้ชิด แต่ลูกช้างมีอาการอ่อนเพลีย ส่วนบาดแผลบริเวณใบหูด้านขวาและโคนหางคาดว่าเกิดจากกิ่งไม้บาดพบหนอนแมลงวัน จึงเห็นร่วมกันที่จะย้ายลูกช้างไปยังคอกชั่วคราวที่โรงรถที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน
ต่อมาวันที่ 18 กันยายน หลังเที่ยงคืนถึงช่วงเช้าวานนี้ (19 ก.ย.) ลูกช้างมีอาการยืนซึม อ่อนแรง ล้มตัวนอนสลับยืนหลับเป็นระยะ คณะสัตวแพทย์ได้ให้สารน้ำและสารอาหารทางเส้นเลือด ประกอบกับมีฝนตกหนักและลมพัดแรง ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง จึงห่มผ้าและให้นมลูกช้าง จากนั้นลูกช้างเริ่มมีอาการทรุดหนัก ซึม ล้มตัวลงนอน โดยมีอาการหายใจลำบาก เยื่อเมือกซีด เจ้าหน้าที่ได้ยกพยุงลูกช้างขึ้น โดยสัตวแพทย์พยายามช่วยเหลือเต็มที่ จากนั้นลูกช้างมีอาการท้องอืดขึ้นเรื่อย ๆ กดการหายใจ ทางสัตวแพทย์จึงได้ทำสวนทวารกระตุ้นการขับแก๊ส ต่อมาลูกช้างเริ่มหยุดหายใจ จึงให้ยากระตุ้นการหายใจและปั๊มหัวใจ จนกระทั่งเวลา 09.45 น.ไม่มีอาการตอบสนอง จากนั้นลูกช้างป่าจึงล้ม
นายสุทิน กล่าวว่า ลูกช้างตัวนี้อายุน้อยมากต้องกินนมแม่ เมื่อพลัดหลงจากแม่จึงกินเศษดินและก้อนหินเข้าไป ทำให้ระบบทางเดินอาหารอุดตัน ชาวบ้านระบุว่าพบเห็นลูกช้างอยู่ตัวเดียวตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา จึงช่วยกันสร้างคอกชั่วคราวด้วยไม้ไผ่บริเวณจุดที่พลัดหลง เพื่อรอแม่ช้างมารับลูกช้างกลับ ต่อมาวันที่ 16 กันยายน เคลื่อนย้ายลูกช้างออกจากคอกชั่วคราวจุดแรกบริเวณที่พลัดหลงไปยังบริเวณสวนสนบ้านแปก อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เนื่องจากเป็นจุดที่มีร่องรอยของช้างป่าใช้เป็นเส้นทางหากินเผื่อโขลงจะกลับมารับ แต่วันรุ่งขึ้นอาการแย่ลงจึงย้ายมารักษาที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวจนเกิดอาการช็อกและล้มในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย