นายกฯ แจงจำเป็นต้องกู้เงิน และถูกตรวจสอบมาตลอด

 รัฐสภา 9 ก.ย.-  นายกฯ  แจงจำเป็นต้องกู้เงิน เพราะเหตุการณ์โควิด-19 ยืนยัน รัฐบาลถูกตรวจสอบมาตั้งแต่ยุค คสช. ขอประชาชนอย่ารังเกียจทหาร เพราะทำหน้าที่เพื่อประชาชน ย้ำชีวิตส่วนตัว แม้เอาเวลาไปออกกำลังกาย แต่สั่งงานได้ตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด บ่น ส.ส.ในห้องประชุมน้อย “ชวน” แจง ส.ส. ต้องอยู่นอกห้องประชุมตามมาตรการเว้นระยะห่างป้องกันโควิด-19 ระบาด


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาญัตติเปิดอภิปราย เพื่อซักถามข้อเท็จจริง และเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในประเด็นวิกฤติทางเศรษฐกิจ และวิกฤติทางการเมือง โดยไม่มีการลงมติ

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณสมาชิกที่อภิปราย และยืนยัน ว่าห่วงใยสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้ง โควิด-19 และเศรษฐกิจ  จะเดินหน้าแก้ปัญหาให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว  และเดินหน้าสู่การพัฒนาประเทศในระยะต่อไป แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างก็ตาม  และจะพยายามทำให้สอดคล้องกับความต้องการของทุกคน   แต่การจะทำให้ทุกคนพอใจเป็นเรื่องยาก  ที่ผ่านมา รัฐบาลยึดมั่นทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน จำเป็นต้องทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังข้อกฎหมาย ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่จำกัด  


“การกู้เงินต่างๆ ที่จำเป็นก็ต้องกู้ หากไม่มีเหตุการณ์ ก็คงไม่ต้องกู้ ส่วนที่มีการอ้างว่ารัฐบาลไม่เคยถูกตรวจสอบมาตั้งแต่เป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะเรื่องต่างๆ ก็ยังทำงานอยู่ มีการตรวจสอบ มีการชี้แจงและทักท้วง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ว่าการแก้ปัญหาอยู่ในระดับน่าพอใจในระดับโลก และต้องร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น   ยืนยันว่าเคารพในกระบวนการรัฐสภามาโดยตลอด จะทำทุกอย่างให้เกิดความชอบธรรม โปร่งใสให้มากที่สุด ปัญหาหลายปัญหาที่จะพูดในวันนี้ ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นยาวนาน    รัฐบาลเตรียมแก้ปัญหามาหลายปีแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ปัญหาหลายปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ยืนยันว่าจะรับผิดชอบแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี พร้อมย้ำว่าจะทำการปฏิรูปให้สำเร็จ ไม่ได้มีปัญหากับนักเรียนนักศึกษา มีแต่คนทำให้นักเรียนนักศึกษา มีปัญหากับตน  และขอบคุณสมาชิกทุกท่าน ทั้งที่อยู่ในห้องจำนวนน้อย และอยู่นอกห้องอีกจำนวนมาก

“อย่ารังเกียจทหารมากนัก เพราะคือลูกหลานทั้งนั้น ทำงานโดยเสียสละ หลายคนเคยเป็นทหารมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จในวงการทหาร  จึงโจมตีวงการทหาร แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ก็รับฟังได้ และขออย่าแยกทหารออกจากประชาชน ทหารไทยไม่ได้มีแค่ปฏิวัติ แต่ทุกวันนี้ทหารทำงานเพื่อประชาชน ทั้งการป้องกันประเทศ การป้องกันภัยพิบัติ การป้องกันโควิด-19 ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน อย่าสร้างความเกลียดชังต่อไปเลย” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า การออกมาเรียกร้องเรื่องต่างๆ แล้วอ้างว่า เป็นความคิดเห็นของคนทั้งประเทศนั้น ขอแยกแยะให้เห็นว่า  คนไทย 66.5 ล้านคน  แต่ละช่วงวัย แบ่งออกเป็น ดังนี้  อายุ  0-14 มีจำนวน 11 ล้านคน  อายุ 15-25  มีจำนวน 9.6 ล้านคน  อายุ 26-35 มีจำนวน  9 ล้านคน  อายุ 36-45 มีจำนวน 10 ล้านคน  อายุ 46-55  มีจำนวน 10 ล้านคน  อายุ 56-65 มีจำนวน 8 ล้านคน และอายุ 66 ขึ้นไป  มีจำนวน  7 ล้านคน 

“หากเปรียบเทียบตามสัดส่วนแล้ว  มีนักเรียนมัธยมต้น  2,247,549 คน  คิดเป็น 23%  และนักศึกษา ปริญญาตรี  1,536,377 คน  คิดเป็น 16%   นี้คือคำว่าคนไทยทั้งประเทศ  ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องทำงานให้สอดคล้อง ว่าจะดูแลคนเหล่านี้อย่างไร การจะทำให้ทุกคนมีความสุข อาจจะทำได้ยาก แต่ไม่เกินความพยายามของรัฐบาล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  รัฐบาลทำทุกอย่าง มีการตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิรูป และปรับลดจำนวนข้าราชการลงให้ได้ ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีหน่วยงานใหม่ขึ้นมาทดแทน  โดยไม่เพิ่มอัตรากำลังมากนัก เพราะมีเทคโนโลยีต่างๆ มากมายขึ้นมาทดแทน  

“ส่วนที่มีการกล่าวหาเรื่องชีวิตส่วนตัว  ว่าไปออกกำลังกายบ้างอะไรบ้าง ผมยืนยันว่าสั่งการได้อยู่แล้ว ทำงานได้ ไม่มีวันหยุดราชการ สอบถามจากรัฐมนตรีต่างๆ ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีนายกรัฐมนตรีพาดพิง ส.ส. ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม ซึ่งทำให้สภาฯ เกิดความเสียหาย ส่วน นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ร้องเรียนว่าการถ่ายทอดสดทีวีรัฐสภามีปัญหาสัญญาณช้า เป็นความจงใจหรือไม่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า จำนวน ส.ส.ในห้องน้อย ไม่ได้แปลว่ามีปัญหา เพราะมีมาตรการให้ ส.ส.นั่งห่างกัน และไม่สนับสนุนให้นั่งเต็มในห้อง เพราะจะมีปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรัฐสภาไทยยังไม่เคยมีผู้ติดเชื้อ สถานการณ์ยังดีอยู่ แต่ไม่รู้จะตลอดรอดฝั่งหรือไม่  .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด ขณะ “สนธิ” โผกอด ลั่นลืมไปหมดแล้ว อวยพรกลับให้หายป่วยไว ๆ เดินหน้าขับไล่คนชั่วไม่ให้มีที่ยืนในสังคม

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน