ทบ.แจงเคลื่อนกำลังพล-อาวุธ ฝึกอาร์ดีเอฟ

กรุงเทพฯ 8 ก.ย.- ทบ.แจงเคลื่อนกำลังพล 3,000 นาย พร้อมรถถังปักหลัก สระบุรี เพื่อฝึก “อาร์ดีเอฟ” หลังมีคนจับมาปั่นกระแสรัฐประหาร ด้าน ผบ.ทบ.ย้ำกำลังพลชี้แจงข่าวสารถึงประชาชนดับข้อครหา


พล.อ.ณฐพล ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ชี้แจงกรณี กระแสข่าวลือ รัฐประหาร ในช่วงที่ กองทัพบกมีการเคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ในหลายพื้นที่ว่า จะเห็นได้ว่าหากมีการเคลื่อนกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ออกจากหน่วย ก็จะมีการแจ้งล่วงหน้าให้ทราบ ขณะนี้กองทัพบกมีการฝึกใหญ่ คือ การฝึกหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วของกองทัพบก หรือ อาร์ดีเอฟ (RDF) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลให้เป็นหน่วยรบเคลื่อนที่เร็วของกองทัพบก จำนวน 2 วัน คือวันที่ 8 – 9 ก.ย.และจะเคลื่อนย้ายกลับหน่วย เป็นการฝึกภายในประเทศ และเป็นการฝึกพัฒนากำลังรบของเรา

พล.อ.ณฐพล กล่าวว่าที่ผ่านมาการฝึก RDF มีที่กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) แต่ปัจจุบันเราปรับให้ทุกกองทัพภาค มีกองกำลังที่มีความพร้อมอยู่ในตัวเอง เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการฝึกทุกระบบ ทั้งนี้หน่วยทหารกระจายอยู่ทั่วประเทศ เมื่อฝึกเสร็จก็ต้องเดินทางกลับที่ตั้ง จึงเห็นได้ว่ามีการเคลื่อนย้ายกำลังพลหลายพื้นที่ในห้วงเวลานี้ และเรื่องเหล่านี้จะมีการประกาศการเคลื่อนย้ายให้ทราบล่วงหน้าอยู่แล้ว ยืนยันเป็นเรื่องการฝึกล้วน ๆ ซึ่งถือเป็นฤดูการฝึกของทหารใหม่ และเรื่องอื่นก็คงจะเบาบางไป


เมื่อถามว่าอยากฝากถึงประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนกใช่หรือไม่ พล.อ.ณฐพล กล่าวว่า เรามีการแจ้งด้วยความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบ หากสงสัยก็ถามได้ตลอดเวลา และการแจ้งข้อมูลข่าวสารเราก็จะแจ้งผ่านสื่อที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ข้อมูลถึงประชาชนมากที่สุดให้เกิดความสบายใจ เมื่อถามว่า เป็นแค่เพียงข่าวลือที่คนลือกันไปเองในเรื่องการรัฐประหารใช่หรือไม่ พล.อ.ณฐพล กล่าวว่า ถือเป็นกระแสในช่วงเวลา แล้วแต่คนจะนำกระแสตรงนี้ไปสร้างประเด็น แต่ในเรื่องข้อเท็จจริงควรสอบถามกัน

เมื่อถามว่าในที่ประชุม ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก มีการพูดคุยในกรณีดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ณฐพล กล่าวว่า พล.อ.อภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แจ้งเตือนทุกหน่วย ให้มีความระมัดระวังและพยายามให้การสื่อสารของเราไปถึงประชาชนให้มากที่สุด เพื่อจะได้แก้ข่าวลือตรงนี้

เมื่อถามว่ากระแสข่าว ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 3,000 นาย มาประจำที่จังหวัดสระบุรี พล.อ.ณฐพล กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องเดียวกันก็คือการฝึก RDF เพราะทหารม้าก็มีการฝึกที่สระบุรี จังหวัดลพบุรี และสระบุรี เป็นแหล่งการฝึกใหญ่ของทหาร เพราะฉะนั้นการเดินทางจากกองทัพภาค 3 มาก็จะมาลงพื้นที่ จ.สระบุรี ขนรถถังมาก็จะมาลงพื้นที่นี้และก็ขนกลับ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากย้อนไปดูปีก่อน ๆ ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เนื่องจากสนามฝึกอยู่ตรงนี้


เมื่อถามว่าสอดคล้องกับการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นวันที่ 19 ที่จะทำให้ประชาชนเกิดความหวาดระแวงหรือไม่ พล.อ.ณฐพล กล่าวว่า แผนการฝึกของเราเป็นแผนระยะยาว ในปีหนึ่งจะมีลำดับขั้นการฝึกต่าง ๆ คงไม่สามารถจัดตารางให้มาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์อะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง