สธ.5 ก.ย.-สธ.ชื่นชมทีมแพทย์จิตอาสา มูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อต่อชีวิต ช่วยผ่าตัดรักษาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมพื้นที่ห่างไกล รพ.เบตง ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ศักยภาพเทียบเท่าโรงเรียนแพทย์ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย เข้าถึงบริการเดินได้ ไม่ปวดเข่าอีก
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลเบตง จังหวัดยะลา พบว่า ทางโรงพยาบาลฯมีความร่วมมือกับมูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อต่อชีวิต ที่มี ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช รองคณบดีฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานมูลนิธิฯ และเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดข้อเข่าระดับประเทศ ได้นำทีมแพทย์จิตอาสาและอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ มาช่วยทำการผ่าตัดข้อเข่าให้แก่ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเบตง ซึ่งโรคข้อเข่าถือเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่สำคัญของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเบตง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แม้กระทรวงสาธารณสุขจะมีการจัดบริการแต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาคเอกชนและมหาวิทยาลัย
“การมาช่วยผ่าตัดผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่โรงพยาบาลเบตง ทำให้ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับโรงเรียนแพทย์ได้รับการดูแลรักษาด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง จากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ป่วยแล้วหลายสิบราย และทำให้เกิดการต่อยอดองค์ความรู้ของแพทย์กระทรวงสาธารณสุขด้วย”นพ.สุขุม กล่าว
ศ.นพ.กีรติ กล่าวว่า มูลนิธิฯต้องการช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้จะอยู่พื้นที่ห่างไกลก็ไม่ต้องเสียโอกาส ได้รับการผ่าตัดรักษาที่มีศักยภาพไม่แตกต่างจากโรงเรียนแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับการผ่าตัดข้อที่โรงพยาบาลเบตงเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 ถือเป็นครั้งที่ 3 มีผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดจำนวน 10 ราย รวม 14 ข้อ แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดข้อ 2 ข้าง จำนวน 4 ราย และผ่าตัดข้างเดียวจำนวน 6 ราย
ข้อบ่งชี้ของผู้ป่วยที่ควรผ่าตัด คือ ข้อเข่าเสื่อมหรือข้อสะโพกเสื่อมระยะสุดท้าย ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ช่วยเหลือตัวเองได้ยาก โดยแพทย์ของโรงพยาบาลเบตงจะคัดกรองเบื้องต้น จากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของมูลนิธิฯ จะประเมินเรื่องความเสี่ยงต่ออันตราย เพื่อจัดการดูแลรักษาให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อผู้ป่วยสูงสุด เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุมักมีโรคประจำตัว หากไม่สามารถควบคุมโรคได้ดีพอก็จะไม่สามารถผ่าตัดได้ รวมถึงยังต้องตรวจระบบไต ระบบไหลเวียนเลือด และระบบการหายใจด้วย
“แม้จะทราบจำนวนผู้ป่วยที่จะรับการผ่าตัดว่าแต่ละคนจะผ่าตัดข้อกี่ข้าง แต่อุปกรณ์ข้อเทียมจะต้องเตรียมพร้อมจำนวนมากและหลายขนาด เช่น จะผ่าตัดจำนวน 10 ข้าง อาจะต้องเตรียมไว้ 40-50 ข้อ เพราะข้อ 1 ข้าง อาจมีข้อ 4-5 ขนาดที่เราต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผู้ป่วย เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการผ่าตัด” ศ.นพ.กีรติ กล่าว
พญ.ปัทมพันธ์ อนันตาพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตง มีการขึ้นลงเขาเพื่อทำการเกษตร ทำให้มีผู้ป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อม หลายรายประสบปัญหาการเดินทาง เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกล ไม่ได้มารับการรักษา ทำให้มีอาการเรื้อรัง ขณะที่แพทย์ออโธปิดิกส์เรามีเพียงท่านเดียว และไม่มีวิสัญญีแพทย์ ทำให้ไม่เพียงพอต่อการผ่าตัดรักษา แต่จากการประสานงานกับทางมูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อต่อชีวิต ที่ได้นำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับผู้เข้ารับการผ่าตัดข้อเข่า เพศหญิง อายุ66 ปีได้เล่าว่ามีอาการข้อเข่าเสื่อมมานานหลายสิบปีเกิดจากการทำสวนขึ้นเขาลงเขา โดยช่วงแรกมีอาการปวดๆหายๆไม่ได้รักษาและอาการมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะปวดตลอด โดยเฉพาะตอนกลางคืน ทำให้มีปัญหาเรื่องของการนอนไม่หลับ และมีอาการข้อผิดรูป จนกระทั่งได้รับการผ่าตัดจากทีมแพทย์ศัลย์ฯสร้างข้อต่อชีวิต เมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นครั้งแรกของการผ่าตัด โดยตนผ่าตัดเข่าข้างซ้ายก่อน ก็ไม่พบอาการปวดเข่าอีก เดินได้สะดวกขึ้น ส่วนข้อเข่าขวาตั้งใจจะผ่าตัดในการจัดโครงการครั้งที่ 2 แต่แพทย์ระบุว่าเวลายังใกล้กันเกินไป จึงมาเข้าร่วมการผ่าตัดในครั้งที่ 3 นี้แทน ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมแพทย์ทุกท่านที่ช่วยให้ตนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น .-สำนักข่าวไทย