รัฐสภา 25 ส.ค.-“ชาดา” ระบุกองทัพเรือต้องมีเรือดำน้ำเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันประเทศ ย้อน “ยุทธพงศ์” ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะอนุมัติให้ซื้อหรือไม่ วอนพูดเรื่องจริงอย่ามุ่งเล่นการเมือง
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มีความจำเป็นที่กองทัพเรือจะจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะมีความจำเป็นดูแลประเทศและเป็นอำนาจต่อรองทางทหาร ซึ่งการจัดซื้อดังกล่าวได้อนุมัติจัดซื้อลำแรกตั้งแต่งบประมาณรายจ่ายปี 2563 และกองทัพเรือได้คืนงบประมาณให้นำไปปใช้แก้ไขปัญหาโควิด -19 จึงต้องควรคืนกลับไปให้กองทัพเรือ ซึ่งไม่ได้จ่ายครั้งเดียว 2 หมื่นล้านบาท
นายชาดา กล่าวว่า ปีที่แล้วนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยก็เป็นกรรมาธิการและอนุมัติโดยไม่ได้คัดค้าน ในวันนั้นมีเพียงตนคนเดียวที่ไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่อนุมัติไปแล้วก็ต้องจบตั้งแต่ปีที่แล้ว ต้องเดินหน้าให้สมบูรณ์ เหมือนซื้อรองเท้าไป 1 ข้างแล้วจะไม่ซื้ออีกข้างได้อย่างไร ดังนั้น อยากให้เอาเรื่องจริงมาพูดกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สุดท้ายขึ้นอยู่กับมติของพรรคว่าจะตัดสินใจอย่างไร โดยจะประชุมกันในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.) แต่ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องเห็นไปในแนวทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เพราะดูแล้วไม่เสียหาย เชื่อว่ามีคำอธิบายได้
“คุณอย่าลืมนะ ประเทศต้องป้องกัน คุณเป็นทหารแล้วจะไม่ใช้ปืนหรือ มันต้องแบ่งกัน อย่าไปพูด แล้วเอาทุกอย่างมาปนกัน ผมมองว่าประเทศต้องอยู่อย่างไร วันนี้ต้องมีเขี้ยวเล็บ คุณยุทธพงษ์เป็นกรรมาธิการสมัยที่แล้วได้อนุมัติให้เขาหมดแล้ว ตอนนี้เขาก็เดินตามของเก่า อย่างไรเขาก็ซื้อได้อยู่แล้ว เพราะอนุมัติไปแล้ว และกองทัพเรือเขาใช้เงินของเขา ถามว่ามันต้องมีไหมก็ต้องบอกว่ามันต้องมี เพราะเขามีกันหมดแล้ว มันเป็นอำนาจต่อรองทางทหาร อย่ามองมิติเดียว เรือดำน้ำป้องกันประเทศได้ระยะไกล มันอนุมัติมาตั้งแต่วันแรกแล้วด้วย คุณก็ต้องมี 123 ตามสเต็ป ต้องมีทุกอย่าง ผมอยู่อนุกรรมาธิการที่ดินและสิ่งก่อสร้าง พรรคก้าวไกลยังถามผมว่าเรือดำน้ำโดนแขวน ต้องพิจารณาเรื่องค่าจอดต้องยกเลิกหมดหรือไม่ ผมก็บอกว่าถึงอย่างไรเขาก็ซื้อแล้ว 1 ลำ ถ้าจอดต้องมีเป็นคนละเรื่องกัน แล้วทำความเข้าใจกันก็โอเค แต่กรณีนี้มันมุ่งเน้นการเมืองมากเกินไป โดยเอาความรู้สึกของประชาชนมา ผมถามกลับว่าวันนี้ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ยุทธพงษ์จะสนับสนุนหรือไม่” นายชาดา กล่าว
นายชาดา กล่าวว่า นายยุทธพงษ์พูดไม่จริงเรื่องที่ระบุว่ามีบิ๊กป.โทรศัพท์ล็อบบี้ให้อนุกรรมาธิการเห็นชอบให้จัดซื้อเรือดำน้ำ เนื่องจากมีอนุกรรมาธิการจากพรรคภูมิใจไทยอยู่ในห้องประชุม พร้อมจะยืนยันว่าไม่มีใครโทรศัพท์ไป และขอยืนยันว่าหากวางแผนกันเรื่องนี้คงไม่มีมติ 4 ต่อ 4 เพราะสุดท้ายก็ต้องเข้าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ชุดใหญ่ จึงเห็นว่าการออกมาพูดเรื่องนี้ เพื่อต้องการสร้างกระแส เพื่อให้ชาวบ้านรู้สึกดี.-สำนักข่าวไทย