นิคมฯ อมตะยอมรับหืดขึ้นคอ ฝ่าโควิด-การเมืองไทย

กรุงเทพฯ -24 ส.ค. – นิคมฯ อมตะยังไม่ทิ้งเป้าหมายขายที่ดินปีนี้ 950 ไร่ แม้ยอมรับกระทบหนักจากโควิด-19  คาดหวังปัญหาการเมืองไทยจะไม่บานปลาย ส่วนนิคมฯ ในเมียนมา ทั้ง “บีกริม- ปตท.” รุมจีบสร้างโรงไฟฟ้า  ส่วนเวียดนาม คาดหวังจีดีพีไม่หดตัวดึงการลงทุน 


นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA กล่าวว่า บริษัทยังไม่เปลี่ยนเป้าหมายที่จะขายที่ดินในนิคมฯ ปีนี้ 950 ไร่ แม้ว่าครึ่งปีแรกจะขายได้เพียง 116 ไร่  แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลกระทบของการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 จะเกิดขึ้นหรือไม่ และนักธุรกิจสามารถเดินทางเข้ามายังในไทยได้หรือไม่ หากเดินทางเข้ามาได้เชื่อมั่นว่ายอดขายจะเป็นไปได้ตามเป้าหมาย เพราะธุรกิจนี้นักลงทุนต้องการเข้ามาดูพื้นที่ด้วยตนเอง ซึ่งนักลงทุนจีนนับเป็นกลุ่มใหญ่และมีความต้องการซื้อพื้นที่แต่ละรายปริมาณสูง ส่วนใหญ่เป็นโรงงานเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยล่าสุดทางบริษัทได้มีการแจ้งรายชื่อแก่ทางการ เพื่อขอลงทะเบียนตามนโยบายรัฐในการผ่อนคลายการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมายที่ตอบรับมาตรการสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ที่เป็นนักธุรกิจ/นักลงทุน ประมาณ 500 คน แต่หากเกิดปัญหาเดินทางเข้ามาไม่ได้ ผู้ร่วมทุนในนิคมไทย-จีน จ.ระยอง ก็จะช่วยทำหน้าที่ในจีน เพื่อติดต่อนักลงทุนในการลงนามข้อตกลงซื้อขายที่ดินให้ 

นายวิบูลย์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเมืองที่มีการชุมนุมกันในขณะนี้ มองว่าการชุมนุมสามารถดำเนินการได้ตามวิถีประชาธิปไตย แต่ขอให้ไม่มีความรุนแรงและคงไม่เกิดเหตุการณ์เหมือนปี 2557 เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องโควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่ปีนี้คาดว่าอัตราการขยายตัวอาจลดลงประมาณร้อยละ 8-10 ขณะที่เวียดนามยังเป็นบวกได้ ในส่วนนี้อาจจจะทำให้เกิดการตัดสินใจลงทุนไปประเทศอื่นได้


“ตอนนี้เศรษฐกิจไทยก็กระทบจากโควิด-19 และยังมีปัญหาการเมือง ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็หวังว่าจะทำงานได้ราบรื่นและแก้ไขข้อกำหนดราชการด้านต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุน ซึ่งกรณีหากไทยเปิดให้นักธุรกิจต่างชาติเข้ามาได้ ก็เชื่อมั่นว่าการลงทุนก็คงจะเกิดขึ้นเป็นหนึ่งในเครื่องจักรพยุงเศรษฐกิจไทย โดยที่ผ่านมาทางบริษัทได้ใช้วิธีออนไลน์ LIVE สดในการดึงดูดการลงทุน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนสินค้าอื่น ๆ เพราะนักลงทุนต้องการเข้ามาดูพื้นที่ด้วยตัวเองมากกว่า” นายวิบูลย์ กล่าว

นายวิบูลย์ กล่าวด้วยว่า จากผลกระทบของโควิด-19 ทางบริษัทได้มีนโยบายเหมือนกับบริษัทอื่น ตัดลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน อย่างน้อยร้อยละ 30  และอมตะวอเตอร์ได้ติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำ ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 9 ล้านบาทต่อปี ส่วนราคาที่ดิน นิคมฯ ไม่ได้มีการปรับลดเหมือนกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อื่น ๆ ที่ในขณะนี้มีการลดราคาบ้าน-คอนโดมิเนียมลงมาบางแห่งลดถึงร้อยละ 30 เนื่องจากที่ดินในนิคมฯ นั้น เป็นการลงทุนระยะยาว และค่าที่ดินนับเป็นต้นทุนรวมของอุตสาหกรรมไม่ถึงร้อยละ 10 ขณะเดียวกันทางบริษัทก็ได้มีการตรึงค่าเช่าโรงงาน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ 

ส่วนการลงทุนในเมียนมาและเวียดนามก็ยอมรับว่าการติดต่อ การซื้อขายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งในส่วนของเวียดนามปีนี้ขายได้กว่า 10 เฮกตาร์ หรือประมาณ 60 ไร่ แต่ขณะนี้กำลังเจรจาจากนักลงทุนที่ต้องการซื้อที่ดินขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้นักลงทุนญี่ปุ่นมีความสนใจจะเข้าไปลงทุนในเวียดนามเพิ่มมากขึ้น


ส่วนเมียนมานักลงทุนทั้งไทย ญี่ปุ่น และจีน สนใจที่จะใช้ที่ดินสำหรับการลงทุนที่ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการค้าขายระหว่างประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มพัฒนาได้ในปี 2564 พื้นที่นี้อยู่ในเมืองย่างกุ้งได้รับการอนุมัติจัดตั้งนิคมฯ จากรัฐบาลเมียนมาแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจากับหลายบริษัทของไทยในการพัฒนาโรงไฟฟ้าในนิคมฯ  เช่น กลุ่ม ปตท. กลุ่มบีกริม เป็นต้น 

ทั้งนี้ โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในเมียนมามีบริษัท Yangon Amata Smart and Eco City Limited (YASEC) เป็นเจ้าของโครงการพัฒนานิคม ซึ่งบริษัทได้ลงทุนผ่านบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในอัตราส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว คือ Amata Asia (Myanmar) Ltd ถือหุ้นใน YASEC ร้อยละ 80 และร่วมลงทุนกับหน่วยงานราชการของเมียนมาอีกร้อยละ 20  โดยหน่วยงานราชการดังกล่าวจะนำที่ดินที่เวนคืนมาได้เป็นทุนชำระ  โดยโครงการนี้เป็นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอมตะย่างกุ้งในช่วงระยะเวลาที่ 1 (Yangon Amata Smart & Eco City) ซึ่งบริษัทได้วางแผนการลงทุนพัฒนาโครงการในช่วงแรกประมาณ 41.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,287 ล้านบาท สำหรับพัฒนาพื้นที่โครงการในช่วงแรกบนพื้นที่ 200 เอเคอร์ หรือประมาณ 506 ไร่ ภายในปี 64  โดยพื้นที่ทั้งหมดมีราว 2,000 เอเคอร์  ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,022 ล้านบาท ตลอดในช่วงระยะเวลาที่ 1 เป็นเวลา 5-10 ปี. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี