fbpx

“อ.ยุทธพร” มองภาพการเมืองขณะนี้ เป็นแบบคัดตัวจริงออก

บ.โทรคมนาคมแห่งชาติ 6 ก.ย.- “อ.ยุทธพร” มองภาพการเมืองขณะนี้ เป็นการเมืองแบบคัดตัวจริงออก เข้าสู่การเมืองแบบตัวแทน ซึ่งเป็นไปตามสังคมวัฒนธรรมเอเชีย ชี้ หากใช้ กม.ให้กลายเป็นการเมือง จะทำให้การเมืองแย่และถดถอย ขณะที่ปมปัญหา ศก. จะเป็นตัววัดอายุของรัฐบาล บอก ปัญหาภายใน พปชร. จะเกิดปรากฏการณ์หนึ่งพรรคสองระบบชัดขึ้น


นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์มองภาพทางการเมืองในช่วงนี้ ที่มีการมองว่าเป็นการสืบทอดระบอบชินวัตร ว่า ในช่วงระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา การเมืองแบบคัดออก คือการคัดตัวจริงออก เพราะมีทั้งเรื่องของการยุบพรรค การตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค การตัดสิทธิ์ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเรื่องจริยธรรมทางการเมือง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการคัดตัวออก ทำให้เข้าสู่การเมืองแบบนอมินี หรือการเมืองแบบตัวแทน ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้เป็นพื้นฐานทางสังคมวัฒนธรรมของเอเชีย เช่นของเมียนมา อินโดนีเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับลักษณะทางสังคมวัฒนธรรมของเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย

”แต่สิ่งที่เป็นปัญหา คือเราพยายามใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง จะทำให้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เรื่องของลักษณะความเป็นตระกูลการเมือง การเมืองแบบเครือข่าย การเมืองแบบทายาททางการเมือง ขึ้นมาทำงานทดแทนการเมืองแบบตัวจริง ท้ายที่สุดหลายคนบอกว่าการคัดกรองแบบนี้ จะทำให้เกิดนักการเมืองที่มีคุณภาพ แต่สุดท้ายผมไม่เห็นแบบนั้น ที่สุดการเมืองแบบคัดออกจะทำให้ภาวะการเมืองแย่และถดถอยลงไปกว่าเดิม” นายยุทธพร กล่าว


นายยุทธพร ยังประเมินอายุของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะยืดยาวหรือไม่ ว่า อีกหนึ่งปีหลังจากนี้ คือส่วนสำคัญที่จะประเมินและชี้อนาคตของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจที่จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับประชาชนและปากท้องชีวิตประจำวัน ถ้าหนึ่งปีหลังจากนี้เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น โอกาสที่เราจะเห็นว่า รัฐบาลไปต่อไม่ได้ ก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้รัฐบาลชุดนี้ อยู่ต่ออีก 2 ปี และครบ 3 ปี ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของสภา ตอนนี้คือปัจจัยที่ท้าทายที่สุด คือการขับเคลื่อนของนโยบายต่างๆ ที่ค้างอยู่ ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต ที่ประชาชนเฝ้ารออยู่ เรื่องของซอฟพาวเวอร์ กฎหมายนิรโทษกรรม การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ค้างคาอยู่และปัญหาสุดท้ายที่ก็เป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญ คือการไปร้องคดีความต่างๆ ตั้งแต่เรื่องการเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี บทบาทของนายทักษิณชินวัตรและเรื่องของการถือครองหุ้น ก็จะเป็นความเสี่ยงของนางสาวแพทองธารและรัฐบาลชุดนี้เช่นเดียวกัน

นายยุทธพร กล่าวว่า ต้องพิจารณาด้วยว่า การใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง ก่อให้เกิดประโยชน์กับสาธารณะหรือไม่ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นก็เห็นว่าไม่ควรที่จะต้องไปดำเนินการในเรื่องนี้องค์กรที่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรรับคำร้องในเรื่องนี้เพราะสุดท้ายถ้าการเมืองไม่มีเสถียรภาพ เกิดการเปลี่ยนตัวของผู้เล่นทางการเมือง ทำให้ประชาชน ที่จะได้รับผลกระทบจากการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพและนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ขาดความเชื่อมั่นสุดท้ายก็จะวนมาสู่ปัญหาปากท้องของประชาชนวันนี้คิดว่าการตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ คือเรื่องที่สำคัญที่สุด เราไม่ปฏิเสธว่าการตรวจสอบเป็นสิ่งที่ดีและต้องเกิดขึ้นด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่มีสาระหรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับสาธารณะ ก็ควรจะยุติในเรื่องเหล่านี้เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า เพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราใช้กฎหมายให้เป็นการเมืองทำให้ประเทศอยู่ในวังวนแบบนี้มาอย่างยาวนาน

“ การเมืองระบบเครือญาติ ถ้าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเอื้อประโยชน์ให้กับเครือญาติ ก็ไม่ได้เป็นปัญหา ถ้าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่ถ้าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดเป็นพิเศษ ก็ต้องถูกตรวจสอบและต้องมีมาตรการในการดำเนินการ ทั้งในทางการเมืองและทางกฎหมายด้วย คิดว่าวันนี้สิ่งสำคัญคือต้องทำให้การเมืองเข้าสู่ระบบปกติ ไม่ได้การเมืองที่บิดเบี้ยว จนกระทั่งท้ายที่สุดแล้ว เมื่อตัวจริงเล่นไม่ได้ ก็ส่งตัวสำรองเข้ามา เมื่อตัวจริงบาดเจ็บจากเกม ก็เปลี่ยนตัวสำรองเข้ามาเล่นแทน ซึ่งตรงนี้จะทำให้การเมืองเกิดปัญหาในระยะยาวมากกว่า” นายยุทธพร กล่าว


นายยุทธพร ยังกล่าวถึงการที่พรรคพลังประชารัฐเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ แทนกลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ได้ยื่นลาออกจากกกรรมการบริหารพรรค ต่อนายทะเบียนพรรค คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยที่ไม่ได้แจ้งกับทางพรรค จะขัดต่อกฎหมายหรือไม่ ว่า การตัดสินใจลาออกจากกรรมการบริหารพรรค สามารถดำเนินการได้ โดยแจ้งกับนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่อาจจะเป็นการข้ามขั้นตอนไป เพราะโดยมารยาทควรจะจะต้องมีการแจ้งกับพรรคต้นสังกัดก่อน เมื่อพรรครับทราบแล้วก็จะไปแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่กระบวนการแบบนี้ ก็ไม่ได้มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าจะต้องมีขั้นตอนอย่างไร ดังนั้น การแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคก่อน ก็ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ มองว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ถือเป็นการเซตซีโร่และหลังจากนี้จะเห็นปรากฎการณ์หนึ่งพรรคสองระบบในพรรคพลังประชารัฐ ที่ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากส่วนหนึ่งก็เป็นฝ่ายค้าน และ สส. อีกส่วนก็จะสนับสนุนรัฐบาลในนามส่วนบุคคล ซึ่งในระบบรัฐสภาก็สามารถทำได้ เพราะต้องสร้างสมดุลของทั้งสองส่วน ทั้งการเป็นตัวแทนของพรรคการเมือง และเป็นตัวแทนของประชาชน

“บางเรื่องกำหนดให้เป็นเอกสิทธิ์ของสส. ในการลงมติอิสระ คือการฟรีโหวต เช่นการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่บางเรื่องก็จะถูกกำกับ โดยมติพรรค ตามกฎหมายพรรคการเมือง ดังนั้นจึงไม่สามารถเทไปในด้านใดด้านหนึ่งอยู่แล้ว ก็จะทำให้เกิดปรากฏการณ์หนึ่งพรรคสองระบบแบบนี้ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในการเมืองไทย ในอดีตสมัยพรรคประชากรไทย ย้อนไปประมาณ 30 ปีที่แล้วมีสส.ส่วนหนึ่งสนับสนุนรัฐบาลของชวน หลีกภัย ทำให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคเวลานั้นไม่พอใจ แสดงความคิดเห็น เปรียบ สส. กลุ่มนั้นเสมือนว่าเป็นงูเห่าในทางการเมือง” นายยุทธพร กล่าว.-315 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมแม่สาย

ชายแดนแม่สายน้ำลด แต่ทิ้งความเสียหายมหาศาล

ตอนนี้น้ำที่ท่วมชายแดนแม่สายลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายหนักหน่วยทั้งฝั่งไทยและเมียนมาและเต็มไปด้วยโคลนมหาศาลที่ท่วมอาคารบ้านเรือน หลายคนยังกลับเข้าไปอาศัยในบ้านไม่ได้

Trump sends email to fundraising list after shots fired near golf course

“ทรัมป์” รอดถูกลอบสังหารครั้งที่ 2

ฟลอริดา 16 ก.ย.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดี รอดจากการตกเป็นเป้าลอบสังหารอีกครั้ง ระหว่างพักผ่อนที่สนามกอล์ฟของตนเองในรัฐฟลอริดา เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาบุคคลสำคัญของสหรัฐได้รับแจ้งว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากบริเวณด้านนอกสนามกอล์ฟของทรัมป์ ที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อช่วงเวลา 13.30 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น จึงรีบไปตรวจสอบ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้เร่งปิดถนนทางเข้าออกและบริเวณโดยรอบสนามกอล์ฟทันที ผลการตรวจสอบพบอาวุธปืนไรเฟิล เอเค-47 พร้อมด้วยลำกล้องเล็งเป้าจากระยะไกล กล้องแบบโกโปร รวมถึงกระเป๋าเป้ 2 ใบ ถูกซุกซ่อนไว้ในพงไม้ริมสนามกอล์ฟ ไม่ไกลจากที่ตั้งของหลุมต่อไปที่ทรัมป์กำลังเล่นอยู่และจะตีไปถึงพอดี ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เห็นชายต้องสงสัยคนหนึ่งวิ่งหนีจากจุดใกล้ที่เกิดเหตุ แล้วขึ้นรถนิสสันสีดำขับหลบหนี ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาบุคคลสำคัญ จึงติดตามและเรียกให้รถคันดังกล่าวจอดข้างทาง ก่อนจับกุมผู้ต้องสงสัยในรถได้ในเวลาต่อมา และแถลงว่า ผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวไว้แล้ว เป็นชายชาวรัฐฮาวาย วัย 58 ปี ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่จะก่อความเสี่ยงหรืออันตรายต่อทรัมป์ได้อีก เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอแถลงยืนยันว่า ทรัมป์ตกเป็นเป้าหมายลอบสังหารชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากหลายหน่วยงานร่วมมือกันป้องกันไว้ได้ ด้านทรัมป์ส่งอีเมล์ถึงบรรดาผู้สนับสนุนว่า เขาปลอดภัยและสบายดี ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเขาได้ และจะไม่มีวันยอมแพ้ ส่วนโฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และรองประธานาธิบดี คอมมาลา แฮร์ริส […]

“เพื่อไทย” ชูมือแถลงชัยชนะเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1

“เพื่อไทย” ชูมือแถลงชัยชนะเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 พา “บู้ จเด็ศ” เข้าสภาฯ สำเร็จ หลังชนะคู่แข่งกว่า 6,000 คะแนน ขณะที่ “นายกฯ แพทองธาร” โทรแสดงความยินดี ด้าน “สมศักดิ์” มองปัจจัยชนะในรอบหลายสิบปี ประชาชนยอมรับนายกฯ ใหม่ ชี้ไม่ใช่ชนะแค่พิษณุโลก แต่ทั้งประเทศกำลังมองนายกฯ คือความหวัง ส่วน “บู้ จเด็ศ” ขอบคุณชาวพิษณุโลก ให้โอกาส ยันทำงานทันที

น้ำโขงเริ่มลด แต่ชาวหนองคายยังเดือดร้อนหนัก

ชาวหนองคาย ยังเดือดร้อนหนักจากแม่น้ำโขงล้นตลิ่งทะลักท่วมบ้านเรือน ร้านค้า พื้นที่ทางการเกษตร ใน 6 อำเภอติดแม่น้ำโขง แต่ล่าสุดมีสัญญาณดี ระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างช้าๆ