“อ.ยุทธพร” มองภาพการเมืองขณะนี้ เป็นแบบคัดตัวจริงออก

บ.โทรคมนาคมแห่งชาติ 6 ก.ย.- “อ.ยุทธพร” มองภาพการเมืองขณะนี้ เป็นการเมืองแบบคัดตัวจริงออก เข้าสู่การเมืองแบบตัวแทน ซึ่งเป็นไปตามสังคมวัฒนธรรมเอเชีย ชี้ หากใช้ กม.ให้กลายเป็นการเมือง จะทำให้การเมืองแย่และถดถอย ขณะที่ปมปัญหา ศก. จะเป็นตัววัดอายุของรัฐบาล บอก ปัญหาภายใน พปชร. จะเกิดปรากฏการณ์หนึ่งพรรคสองระบบชัดขึ้น


นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์มองภาพทางการเมืองในช่วงนี้ ที่มีการมองว่าเป็นการสืบทอดระบอบชินวัตร ว่า ในช่วงระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา การเมืองแบบคัดออก คือการคัดตัวจริงออก เพราะมีทั้งเรื่องของการยุบพรรค การตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค การตัดสิทธิ์ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเรื่องจริยธรรมทางการเมือง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการคัดตัวออก ทำให้เข้าสู่การเมืองแบบนอมินี หรือการเมืองแบบตัวแทน ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้เป็นพื้นฐานทางสังคมวัฒนธรรมของเอเชีย เช่นของเมียนมา อินโดนีเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับลักษณะทางสังคมวัฒนธรรมของเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย

”แต่สิ่งที่เป็นปัญหา คือเราพยายามใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง จะทำให้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เรื่องของลักษณะความเป็นตระกูลการเมือง การเมืองแบบเครือข่าย การเมืองแบบทายาททางการเมือง ขึ้นมาทำงานทดแทนการเมืองแบบตัวจริง ท้ายที่สุดหลายคนบอกว่าการคัดกรองแบบนี้ จะทำให้เกิดนักการเมืองที่มีคุณภาพ แต่สุดท้ายผมไม่เห็นแบบนั้น ที่สุดการเมืองแบบคัดออกจะทำให้ภาวะการเมืองแย่และถดถอยลงไปกว่าเดิม” นายยุทธพร กล่าว


นายยุทธพร ยังประเมินอายุของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะยืดยาวหรือไม่ ว่า อีกหนึ่งปีหลังจากนี้ คือส่วนสำคัญที่จะประเมินและชี้อนาคตของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจที่จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับประชาชนและปากท้องชีวิตประจำวัน ถ้าหนึ่งปีหลังจากนี้เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น โอกาสที่เราจะเห็นว่า รัฐบาลไปต่อไม่ได้ ก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้รัฐบาลชุดนี้ อยู่ต่ออีก 2 ปี และครบ 3 ปี ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของสภา ตอนนี้คือปัจจัยที่ท้าทายที่สุด คือการขับเคลื่อนของนโยบายต่างๆ ที่ค้างอยู่ ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต ที่ประชาชนเฝ้ารออยู่ เรื่องของซอฟพาวเวอร์ กฎหมายนิรโทษกรรม การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ค้างคาอยู่และปัญหาสุดท้ายที่ก็เป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญ คือการไปร้องคดีความต่างๆ ตั้งแต่เรื่องการเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี บทบาทของนายทักษิณชินวัตรและเรื่องของการถือครองหุ้น ก็จะเป็นความเสี่ยงของนางสาวแพทองธารและรัฐบาลชุดนี้เช่นเดียวกัน

นายยุทธพร กล่าวว่า ต้องพิจารณาด้วยว่า การใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง ก่อให้เกิดประโยชน์กับสาธารณะหรือไม่ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นก็เห็นว่าไม่ควรที่จะต้องไปดำเนินการในเรื่องนี้องค์กรที่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรรับคำร้องในเรื่องนี้เพราะสุดท้ายถ้าการเมืองไม่มีเสถียรภาพ เกิดการเปลี่ยนตัวของผู้เล่นทางการเมือง ทำให้ประชาชน ที่จะได้รับผลกระทบจากการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพและนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ขาดความเชื่อมั่นสุดท้ายก็จะวนมาสู่ปัญหาปากท้องของประชาชนวันนี้คิดว่าการตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ คือเรื่องที่สำคัญที่สุด เราไม่ปฏิเสธว่าการตรวจสอบเป็นสิ่งที่ดีและต้องเกิดขึ้นด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่มีสาระหรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับสาธารณะ ก็ควรจะยุติในเรื่องเหล่านี้เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า เพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราใช้กฎหมายให้เป็นการเมืองทำให้ประเทศอยู่ในวังวนแบบนี้มาอย่างยาวนาน

“ การเมืองระบบเครือญาติ ถ้าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเอื้อประโยชน์ให้กับเครือญาติ ก็ไม่ได้เป็นปัญหา ถ้าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่ถ้าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดเป็นพิเศษ ก็ต้องถูกตรวจสอบและต้องมีมาตรการในการดำเนินการ ทั้งในทางการเมืองและทางกฎหมายด้วย คิดว่าวันนี้สิ่งสำคัญคือต้องทำให้การเมืองเข้าสู่ระบบปกติ ไม่ได้การเมืองที่บิดเบี้ยว จนกระทั่งท้ายที่สุดแล้ว เมื่อตัวจริงเล่นไม่ได้ ก็ส่งตัวสำรองเข้ามา เมื่อตัวจริงบาดเจ็บจากเกม ก็เปลี่ยนตัวสำรองเข้ามาเล่นแทน ซึ่งตรงนี้จะทำให้การเมืองเกิดปัญหาในระยะยาวมากกว่า” นายยุทธพร กล่าว


นายยุทธพร ยังกล่าวถึงการที่พรรคพลังประชารัฐเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ แทนกลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ได้ยื่นลาออกจากกกรรมการบริหารพรรค ต่อนายทะเบียนพรรค คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยที่ไม่ได้แจ้งกับทางพรรค จะขัดต่อกฎหมายหรือไม่ ว่า การตัดสินใจลาออกจากกรรมการบริหารพรรค สามารถดำเนินการได้ โดยแจ้งกับนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่อาจจะเป็นการข้ามขั้นตอนไป เพราะโดยมารยาทควรจะจะต้องมีการแจ้งกับพรรคต้นสังกัดก่อน เมื่อพรรครับทราบแล้วก็จะไปแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่กระบวนการแบบนี้ ก็ไม่ได้มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าจะต้องมีขั้นตอนอย่างไร ดังนั้น การแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคก่อน ก็ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ มองว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ถือเป็นการเซตซีโร่และหลังจากนี้จะเห็นปรากฎการณ์หนึ่งพรรคสองระบบในพรรคพลังประชารัฐ ที่ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากส่วนหนึ่งก็เป็นฝ่ายค้าน และ สส. อีกส่วนก็จะสนับสนุนรัฐบาลในนามส่วนบุคคล ซึ่งในระบบรัฐสภาก็สามารถทำได้ เพราะต้องสร้างสมดุลของทั้งสองส่วน ทั้งการเป็นตัวแทนของพรรคการเมือง และเป็นตัวแทนของประชาชน

“บางเรื่องกำหนดให้เป็นเอกสิทธิ์ของสส. ในการลงมติอิสระ คือการฟรีโหวต เช่นการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่บางเรื่องก็จะถูกกำกับ โดยมติพรรค ตามกฎหมายพรรคการเมือง ดังนั้นจึงไม่สามารถเทไปในด้านใดด้านหนึ่งอยู่แล้ว ก็จะทำให้เกิดปรากฏการณ์หนึ่งพรรคสองระบบแบบนี้ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในการเมืองไทย ในอดีตสมัยพรรคประชากรไทย ย้อนไปประมาณ 30 ปีที่แล้วมีสส.ส่วนหนึ่งสนับสนุนรัฐบาลของชวน หลีกภัย ทำให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคเวลานั้นไม่พอใจ แสดงความคิดเห็น เปรียบ สส. กลุ่มนั้นเสมือนว่าเป็นงูเห่าในทางการเมือง” นายยุทธพร กล่าว.-315 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ถกต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ดัน 5 ยุทธศาสตร์

บ้านพิษณุโลก 14 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้าบ้านพิษณุโลก หารือบีโอไอ – ทีมซอฟต์พาวเวอร์ไทย หนุนลงทุน พร้อมต่อยอด ดัน 5 ยุทธศาสตร์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ในเวลา 09.50 น. เพื่อประชุมกับทีมที่ปรึกษาและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นการหารือต่อยอดจากที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย 5 ด้าน ทั้ง อาหารไทย มวยไทย ไทยเวลเน็ต ภาพยนต์ไทย และอัญมนี บนเวที Splash Softpower Forum 2025 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 8-11 ก.ค. ที่ผ่านมา .-316 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]