รัฐสภา 18 ส.ค.-ส.ว.เป็นห่วงการชุมนุม “สมชาย” แฉมีพรรคการเมืองเทคโอเว่อร์การชุมนุมของคณะประชาชนปลดแอก เกณฑ์คนร่วมชุมนุม แนะเปิดเวทีสภาให้นายกฯ เจรจา ด้าน “นพ.เจตน์” ชี้การชุมนุมไม่ปกติ มีผู้อยู่เบื้องหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) วันนี้ (18 ส.ค.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้เปิดโอกาสให้ ส.ว.หารือปัญหาต่าง ๆ
โดยนายสมชาย แสวงการ ส.ว. หารือว่า หนักใจเมื่อทราบการข่าวว่าคณะประชาชนปลดแอก มีพรรคการเมืองเทคโอเว่อร์ เพราะมีมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมเวที การข่าวระบุว่า การชุมนุมมี ส.ส.คนหนึ่งนำประชาชนมาจากย่านสายไหม มีนบุรี บางซื่อ ร่วมชุมนุมพร้อมสนับสนุนรถห้องน้ำติดเครื่องปรับอากาศ 4 คัน รถน้ำและเครื่องดื่มแบบบาร์ พร้อมเวทีแสง สี เสียง ขณะที่อีกพรรคการเมืองนำคนจากโรงงาน 2,000 คนร่วมชุมนุม โดยสารมากับรถบัส มาส่งที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ และเสาชิงช้า และมีการนำชาวบ้านจากวัดย่านมีนบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี 3,000 คน เข้าร่วม และพบการทะเลาะกันของการ์ดและชายชุดดำ ดังนั้นขอให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการผู้ละเมิดกฎหมาย
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดเวทีที่รัฐบาลมอบให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รับฟังความเห็นนักศึกษานั้น ขอให้จัดเวทีโดยมีตัวแทนอธิการบดีสถาบันการศึกษา ตัวแทนประธานนิสิต นักศึกษา 400 คน มาประชุมที่รัฐสภา จัดประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย , นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร , นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการของสภาฯ และวุฒิสภา ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มเยาวชน พร้อมตั้งโจทย์ เช่น จะแก้รัฐธรรมนูญมาตราใด การแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การคุกคามสิทธิเสรีภาพ จะดำเนินการอย่างไร รวมถึงข้อเสนอยุบสภาฯ จะเดินต่ออย่างไร
“ผู้ใหญ่ควรแลกเปลี่ยนสิ่งที่เป็นปัญหากับเด็ก และให้เด็กคิด อย่างกังวลว่าจะครอบงำ แต่ขณะนี้ครู ผู้ปกครอง ปรับตัวไม่ทัน ซึ่งผมมองว่าการชูสามนิ้วระหว่างร้องเพลงชาติไม่เหมาะสม เพราะการเข้าแถว คือ การสร้างวินัย ส่วนการผูกโบว์สีขาวนั้น ให้ทำได้ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของเยาวชน มีความพยายามทำให้เหมือนกับการชุมนุมที่ฮ่องกง” นายสมชาย กล่าว
ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. กล่าวว่า ขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ แม้ประเทศไทยมีผลงานที่ทั่วโลกยอมรับในการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 แต่คนไทยกลับหาเหตุมาชุมนุม ทั้งที่ควรช่วยกันแก้ปัญหา การชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่แกนนำและผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุม รัฐบาลจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้อยู่เบื้องหลัง 10 ประเด็นจาบจ้วงสถาบัน และอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของเด็กนักเรียน ข้อเรียกร้อง 3 ข้อของผู้ชุมนุม โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ต้องอาศัยเสียง ส.ว. 84 คนจาก 250 คน ในวาระ 1 และ 3 แต่ ส.ว.กลับไม่มีส่วนร่วม
นพ.เจตน์ กล่าวอีกว่า ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่ขัดข้องเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ขอให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขประเด็นใด ส.ว.ไม่ยึดติดตำแหน่ง และเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญทำได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อยกร่างใหม่ทั้งฉบับ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้วในการแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ขอแก้ไขมาตรา 291 แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่ารัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติมาแล้ว ถ้าจะแก้ไขมาตรา 291 เพื่อยกร่างใหม่ ต้องกลับไปถามประชาชนก่อน จึงเสนอให้รัฐบาลอดทน ฟังความเห็นรอบด้านของทุกภาคส่วน ในการแก้รัฐธรรมนูญให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมพูดคุยกัน ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา ที่ตนเห็นว่าไม่ปกติ และเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วย.-สำนักข่าวไทย