อังกฤษ 22 ก.ค.- “ทีมหงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะได้รับถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษที่รอคอยมานานถึง 30 ปี หลังจบเกมเปิดบ้านพบกับเชลซี ในคืนวันนี้
ศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดรองสุดท้ายของฤดูกาล 2019-2020 คืนนี้ไฮไลท์อยู่ที่พิธีมอบถ้วยแชมป์ให้กับ “ทีมหงส์แดง” ลิเวอร์พูล หลังจบเกมเปิดแอนด์ฟิลด์ พบ เชลซี คืนนี้เวลา 02.15 น. สำหรับพิธีมอบถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ปี 1990 และเป็นแชมป์สมัยที่ 19 ให้กับลิเวอร์พูล จะไม่มีแฟนบอล “หงส์แดง” ร่วมเป็นสักขีพยาน แต่พรีเมียร์ลีก จะให้ เคนนี ดัลกลิช ตำนานนักเตะและผู้จัดการทีม ที่เป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลคนสุดท้าย ที่พาทีมผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ร่วมมอบเหรียญ และถ้วยแชมป์ ส่วนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม ที่บาดเจ็บหัวเข่า จะเป็นคนรับถ้วยแชมป์
โดยคืนนี้ ลิเวอร์พูล และพรีเมียร์ลีก ขอให้แฟนบอลอยู่บ้าน และฉลองแชมป์ผ่านการถ่ายทอดสด โดยไม่ต้องเดินทางมายังสนามแอนฟิลด์ ซึ่งเหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” สามารถแบ่งปันการเฉลิมฉลองผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยติดแฮชแท็ก #LFCatHome แต่พรีเมียร์ลีก อนุญาตให้ครอบครัวของนักเตะลิเวอร์พูล เข้าสนามในพิธีรับถ้วยแชมป์เป็นกรณีพิเศษ ตามคำร้องขอจากสโมสร แต่ต้องไม่เกิน 300 คน และต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งรักษาระยะห่าง เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ส่วนความพร้อมของทั้งสองทีมในคืนนี้ เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ที่พาทีมแพ้อาร์เซนอล 1-2 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 4 นัด จะยังไม่มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ โฌแอล มาติป ที่บาดเจ็บ ส่วน เจมส์ มิลเนอร์ ต้องรอทดสอบความฟิต โดยนัดนี้ คล็อปป์ ต้องจัดทีมชุดดีที่สุดเพื่อแก้ตัวหลังจากที่โชว์ฟอร์มไม่ค่อยประทับใจ หลังจากรู้ว่าคว้าแชมป์ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน ตัวหลักพร้อมลงสนามทั้ง อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต ฟีร์มีโน, ซาดิโอ มาเน
ด้านแฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือเชลซี ที่พาทีมชนะนอริช ซิตี้ 1-0 ในเกมลีกล่าสุด ก่อนถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ในเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด นัดนี้จะไม่มี บิลลี กิลมอร์ ดาวรุ่งที่พักยาว กับ เอ็นโกโล ก็องเต้ ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ที่น่าจะยังพลาดช่วยทีม ส่วนนักเตะที่ได้พักในเกมล่าสุด เกปา อาร์รีซาบาลาก้า และ คริสเตียน พูลิซิช น่าจะกลับมาช่วยทีมได้ รวมถึง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, มาเตโอ โควาซิช, วิลเลียน และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์.-สำนักข่าวไทย