fbpx

ศบค.ย้ำช่วงวันหยุดยาวต้องเที่ยวอย่างมีสติเพื่อความปลอดภัย

ทำเนียบฯ 3 ก.ค.-ศบค. ย้ำช่วงวันหยุดยาวต้องเที่ยวอย่างมีสติเพื่อความปลอดภัย ห่วงกลุ่มกิจการกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ไม่อยากให้ต้องปิดกิจการอีก แจงต่างชาติเข้าประเทศเพื่อการแพทย์ต้องอยู่โรงพยายาลอย่างน้อย 14 วัน


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีวันหยุดยาว 4 วันในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ว่า ศบค.มีความห่วงใยมากในกิจการและกิจกรรมสีแดง หรือมีความเสี่ยงสูง อาทิ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ในการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 เพราะในต่างประเทศเกิดการระบาดจากจุดนี้ ซึ่งการลงทะเบียนใช้บริการนั้นมีความสำคัญ และการควบคุมโรค เป็นภารกิจของคนทั้งชาติ เช่นเดียวกับการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เมื่อ ศบค.และรัฐบาลผ่อนคลายให้แล้ว อยากขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ใช้ชีวิตอย่างมีสติ เที่ยวอย่างปลอดภัย แม้จะไม่มีรายงานการติดเชื้อในประเทศมาแล้ว 39 วัน แต่เพื่อไม่ให้เกิดการต้องปิดกิจการอีก เพื่อให้ผ่านระยะที่ 5 นี้ไปด้วยดี

“พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) เน้นย้ำเรื่องผิวสัมผัสร่วมกันว่ามีความสำคัญสูง ขอความร่วมมือไม่ดื่มจากแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่ด้วยกัน เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ขอให้ทุกคนปฏิบัติตัวเหมือนระยะ 1-4 ที่ผ่านมา การ์ดอย่าตก และการสวมหน้ากากมีความจำเป็นในช่วงที่ยังไม่มีวัคซีน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


ส่วนกรณีชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลมีผู้ติดตามได้หรือไม่นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สามารถมีผู้ติดตามได้ไม่เกิน 3 คน ต้องมีใบนัดจากแพทย์และโรงพยาบาลในการรักษา ต้องมีใบอนุญาตการเดินทางตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย เมื่อเข้ามาแล้วต้องอยู่ในโรงพยาบาล 14 วันอย่างน้อย ไม่อนุญาตให้เดินทางกลับก่อนเพื่อความมั่นใจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553