สหรัฐ 2 ก.ค.- สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงวิกฤติในหลายประเทศโดยเฉพาะที่สหรัฐ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 50,000 คนเป็นครั้งแรก ขณะที่ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเพิ่มกว่าวันละ 160,000 คน
สหรัฐยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด-19 ล่าสุดเมื่อวานนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มกว่า 52,000 คน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พบผู้ติดเชื้อเกินวันละ 5 0,000 คน พื้นที่แพร่ระบาดรุนแรงในขณะนี้อยู่ในรัฐต่างๆ ทางภาคใต้และภาคตะวันตก ทำให้ทางการต้องสั่งปิดบาร์และชายหาดตั้งแต่รัฐแคลิฟอร์เนียไปจนถึงรัฐฟลอริดา หลังพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นจำนวนมากและหลายรัฐต้องใช้มาตรการกักกันโรคเป็นเวลา 14 วันสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างถิ่นเพื่อร่วมฉลองวันชาติสหรัฐ ในวันที่ 4 ก.ค. รวมทั้งมีคำสั่งให้ร้านอาหารระงับการให้บริการลูกค้านั่งรับประทานอาหารภายในร้าน ล่าสุดสหรัฐ มีผู้ติดเชื้อสะสมราว 2.78 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 130,000 คนมากเป็นอันดับ 1 ของโลก
ขณะที่บราซิลซึ่งสถานการณ์รุนแรงเป็นอันดับ 2 ของโลก เมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มกว่า 1,000 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 45,000 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นกว่า 1.45 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเกินกว่า 60,000 คนแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในบราซิลจะลดลงแต่อย่างใด พื้นที่แพร่ระบาดรุนแรงที่สุดอยู่ในรัฐเซาเปาโล ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 14,700 คน และที่รัฐรีโอเดจาเนโร มีผู้เสียชีวิตกว่า 10,000 คน องค์การสุขภาพของภาคพื้นอเมริกาเตือนว่ายอดตายในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียนอาจทะลุเกินกว่า 400,000 คนในเดือนตุลาคมนี้ หากยังไม่มีมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดกว่าเดิม ขณะที่องค์การอนามัยโลกก็เตือนว่าแม้เวลานี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 500,000 คนแล้ว แต่โรคโควิด-19 จะยังมีการแพร่ระบาดต่อไปอีกนาน โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก เพิ่มวันละกว่า 160,000 คน.-สำนักข่าวไทย