เร่งหาที่มากระสุนปริศนาทะลุร่าง ด.ช.วัย 3 ขวบดับ

ตาก 30 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตรวจสอบหาที่มากระสุนปริศนาทะลุร่าง ด.ช.วัย 3 ขวบ เสียชีวิต ในพื้นที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา คาดวิถีกระสุนมาจากบริเวณริมแม่น้ำเมย 



พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพล ใจแสน ผกก.พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดตาก ลงพื้นที่ตรวจสอบวิถีกระสุนและหัวกระสุน หลังเกิดเหตุกระสุนปริศนายิงโดน ด.ช.ปัณณทัต ขจรศักดิ์อุดม หรือ น้องปลื้ม วัย 3 ขวบเศษ จนเสียชีวิต บริเวณบ้านเลขที่ 16 บ้านแม่ตะวอ หมู่ที่ 1 ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ซึ่งติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา


นางสุวนันท์ ใจสวัสดิ์ อายุ 25 ปี แม่ของน้องปลื้ม เล่าว่า ตนเองมีลูก 2 คน เป็นฝาแฝด ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงที่ตนกำลังจะพาทั้ง 2 คน ไปที่สถานีอนามัย เพราะเด็กป่วยเป็นไข้หวัด แต่ระหว่างที่สองพี่น้องยืนรออยู่ใต้บันไดบ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และมีเสียงบุตรชายร้องไห้ จึงรีบวิ่งมาดู ถึงกับตกใจ เมื่อเห็นน้องปลื้มนอนจมกองเลือด จึงรีบอุ้มลูกชายส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา 


ทั้งนี้ ด.ช.ปลื้ม กำลังจะเข้าโรงเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยตนเองซื้อเสื้อผ้ามาเก็บไว้แล้ว แต่ก็มาเสียชีวิตก่อน ซึ่งบุตรแฝดทั้ง 2 คน หลังเกิดได้ไม่กี่เดือน ก็ฝากให้ยายของเด็กเป็นคนเลี้ยง ส่วนตนกับสามีไปทำงาน กทม. เพิ่งกลับมาพบหน้าลูกช่วงโควิด-19 ระบาด ตั้งแต่เดือนมีนาคม และตนเองได้อยู่กับลูกทั้งสองเพียงระยะเวลาสั้นๆ แค่ 3 เดือน ก็มาด่วนเสียชีวิตไป 1 คน ส่วนน้องแฝดคนเล็ก ขณะนี้กลายเป็นคนเหงา เรียกหาแต่พี่ตลอดเวลา โดยมีญาติคอยปลอบขวัญอยู่ไม่ห่าง

ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก เปิดเผยว่า จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน คาดว่าวิถีกระสุนน่าจะมาจากบริเวณริมแม่น้ำเมย ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ คาดว่าเป็นปืนเอ็ม 16 แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบหาจุดและวิถีกระสุนปืน รวมทั้งหาหัวกระสุน เพื่อยืนยัน 

ทั้งนี้ เมื่อเย็นวานนี้ (29 มิ.ย.) หน่วยกู้ภัยเพชรเกษมท่าสองยาง ได้นำศพ ด.ช.ปัณณทัต ขจรศักดิ์อุดม หรือ น้องปลื้ม กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดเหตุ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของแม่และญาติๆ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่