ก.ยุติธรรม 24 มิ.ย.- รมว.ยุติธรรม ประสานตำรวจ คุ้มครองพยาน กรณีเด็กหญิง 9 ขวบ พิการทางสมองถูกข่ม ขืนและถูกขู่ฆ่าทั้งตระกูล พร้อมมอบเงินเยียวยาผู้เสียหาย ด้านมูลนิธิปวีณาฯ ประสานขอย้ายโรงเรียนและ ให้ครอบครัวผู้เสียหายออกนอกพื้นที่ จนกว่ากระบวนการยุติธรรมจะสิ้นสุด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) รับเรื่องร้องทุกข์จาก นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ที่พาคุณยายของเด็กหญิง 9 ขวบที่มีอาการพิการทางสมอง เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือด้านการคุ้มครองพยาน จากกรณีถูกขู่ฆ่า ทั้งตระกูล เนื่องจากแจ้งความดำเนินคดีที่ถูกข่มขืน ปัจจุบันเด็กหญิง 9 ขวบ และคุณยายอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้รับผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานแล้ว ในเบื้องต้นได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลใกล้ชิดเป็นผู้ ดูแลความปลอดภัยและให้ความคุ้มครองเหยื่อและครอบครัวโดยกรมคุ้มครองสิทธิฯจะเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด จนกว่าคดีจะสิ้นสุด พร้อมกันนี้ ยัง ได้มอบเงินช่วยเหลือให้แก่คุณยายของเด็กหญิง 9 ขวบ ผู้เสียหาย จำนวน 50,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเยียวยาตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559
ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี กล่าว่า เหยื่อของเหตุการณ์นี้ เป็นเด็กหญิงที่มีอาการพิการทางสมองลักษณะสมาธิสั้นแต่สามารถจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้หมด โดยถูกข่มขืนหลายครั้งต่างกรรมต่างวาระจากผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนในชุมชมเดียวกันจำนวน 5 คน
โดยคุณยายสงสัยในพฤติกรรมของเด็กที่หายไปนานจึงได้ประสานมูลนิธิปวีณาฯเพื่อขอความช่วยเหลือซึ่งใช้เวลาพอสมควร จนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้ง 5 คน ต่อมาผู้ต้องหา4 คนได้รับการประกันตัว และหนึ่งในสี่ได้มาข่มขู่ครอบครัวผู้เสียหายจะเอาชีวิต มูลนิธิปวีณาฯจึงได้มาร้องขอ ความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอรับการคุ้มครองพยาน และขณะนี้ได้รับความช่วยเหลือแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลครอบครัว ทำให้ครอบครัวของเหยื่อมั่นใจและสบายใจขึ้น
นอกจากนี้กำลังประสานกับกระทรวงศึกษาธิการในการขอย้ายโรงเรียนของเด็กหญิงเหยื่อเพื่อไปเรียนในโรงเรียนเฉพาะทางและขอย้ายครอบครัวของเหยื่อออกนอกพื้นที่เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการยุติธรรมจะเสร็จสิ้นเพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย