กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – บีทีเอส- รถเมล์ คุมเข้มให้บริการแบบ New Normal พร้อมคลายล็อกเฟส 4 เริ่ม 15 มิ.ย.นี้ ด้านประชาชนมั่นใจบริการรถโดยสารสาธารณะมากขึ้น วอนช่วยจัดการคนหนาแน่นชั่วโมงเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ใช้บริการทุกคนต่างสวมหน้ากากอนามัย ก่อนจะเดินผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิบริเวณทางเข้าสถานี หากผู้โดยสารคนใดอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ก็จะให้หยุดพักคอย ก่อนเข้าสถานีประมาณ 5 – 10 นาที จึงจะสามารถเข้ามายังบริเวณสถานีได้ นอกจากนี้ ยังมีการจัดวางเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการผู้โดยสาร
ขณะที่บริเวณชานชาลาของสถานีจะมีการกำหนดจุดยืน เพื่อเว้นระยะห่างให้กับผู้โดยสาร พร้อมมีการประกาศประชาสัมพันธ์ภายในสถานีเป็นระยะในการขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยเน้นย้ำเรื่องการคัดกรอง และให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ทุกครั้งตลอดระยะเวลาโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส งดการพูดคุย เผื่อเวลาการมาใช้บริการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ผู้โดยสารมาใช้บริการจึงไม่หนาแน่นเท่ากับวันทำงานปกติ
ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป รถไฟฟ้าบีทีเอสจะปรับเวลาให้บริการตามปกติ ตั้งแต่เวลา 05.15 น. – 24.00 น. สายสุขุมวิทและสายสีลม ตั้งแต่เวลา 05.30 น. – 24.00 น. พร้อมทั้งรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที จะกลับมาให้บริการเดินรถตามเวลาปกติเช่นกัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น.
ทั้งนี้ การให้บริการของรถไฟฟ้าบีทีเอส ยังคงเดินรถในความถี่สูงสุด 2 นาที 25 วินาที สายสุขุมวิท และสายสีลมความถี่ 3 นาที 45 วินาที ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในการฉีดพ่น และเช็ดทำความสะอาดภายในขบวนรถไฟฟ้า และจุดสัมผัสร่วมภายในสถานี และบริเวณรอบสถานีด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเต็มที่ และยังคงเน้นปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และมั่นใจให้กับผู้โดยสาร
นางสาวกนกวรรณ ภูทองเทพ ผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า แม้ว่ารถไฟฟ้าจะเริ่มใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาสักระยะแล้ว ตนเองรู้สึกว่ายังคงได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการอยู่ ไม่ขัดข้องที่จะมีการตรวจเข้มงวด มีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการ รู้สึกมั่นใจมากขึ้น แต่รู้สึกว่าในช่วงเวลาเร่งรีบ คนเยอะ ๆ การให้บริการล่าช้าและติดขัด และอยากให้บีทีเอสปรับปรุงเรื่องของที่นั่งและการเว้นระยะภายในตู้โดยสาร เนื่องจากชั่วโมงเร่งด่วนคนจะเยอะและเบียดเสียดกัน ไม่มีการเว้นระยะห่าง
นางสาวญาณิศา วงษ์ท่าเรือ ผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสครั้งแรก กล่าวว่า รู้สึกดีที่บีทีเอสมีมาตรการคุมเข้มตั้งแต่ทางเข้าจนถึงบริเวณภายในสถานี แม้ว่าจะมาใช้บริการครั้งแรก ก็รู้สึกมั่นใจเรื่องความปลอดภัย
ด้านรถโดยสารสาธารณะ ได้ขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง และห้ามรับประทานอาหารบนรถ รวมถึงให้ปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร ด้วยการเว้นที่นั่ง และจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์บริการผู้โดยสาร
นายสมชาย ครุฑมีชัย ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ต้องเลื่อนนัดหมอที่โรงพยาบาลราชวิถี ตั้งแต่เดือนเมษายนมาเป็นเดือนมิถุนายนแทน ซึ่งวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้มาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะแบบ New Normal โดยรู้สึกมั่นใจในการบริการของรถสาธารณะ เพราะมีการทำความสะอาดภายในรถเป็นระยะ พอกำหนดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง และจำกัดจำนวนผู้โดยสารแต่ละคัน ส่งผลให้จำนวนคนภายในรถน้อยลง ไม่หนาแน่น นั่งสบายขึ้น
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ได้ขอความร่วมมือผู้ขับรถแท็กซี่ ไม่จอดแช่ป้ายรถโดยสารสาธารณะบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากทำให้การจราจรติดขัด ไม่สามารถระบายการจราจรให้คล่องตัวได้ กระทบรถโดยสารสาธารณะไม่สามารถเข้าจอดป้ายได้ หรือเข้าจอดป้ายได้ล่าช้า ส่งผลให้มีผู้โดยสารที่มารอขึ้นรถโดยสารสาธารณะต้องรอนานขึ้น ใช้เวลาอยู่ที่ป้ายนานขึ้น และมีปริมาณผู้โดยสารหนาแน่น . – สำนักข่าวไทย