“พล.อ.ประวิตร” สั่งเข้ม 8 มาตรการรับมือน้ำท่วม-ภัยแล้ง

สำนักข่าวไทย 11 มิ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” สั่งเข้มทุกหน่วยภายใต้ กอนช. เร่ง 8 มาตรการป้องกันน้ำท่วมปี 63 พร้อมเก็บกักน้ำถึงแล้งปีหน้า





เมื่อเวลา 10.00 น. ​วันนี้ (11 มิ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2563 ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้คณะทำงาน กอนช. อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงบประมาณ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยมีฝนตกในทุกภูมิภาค และจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นหลังจากนี้ โดยเฉพาะบริเวณภาคภาคเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ดังนั้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมมือกันเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างรัดกุมและรอบด้าน รวมทั้งเตรียมแผนบริหารจัดการน้ำสำหรับแก้ปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืนควบคู่กัน


พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้ร่วมติดตามความก้าวหน้าการปฏิบัติงานตาม 8 มาตรการ รองรับสถานการณ์ฤดูฝนปี 2563 โดยขณะนี้หน่วยงานผู้รับผิดชอบได้ดำเนินงานรุดหน้าไปแล้วในหลายส่วน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการประเมินสถานการณ์ในช่วงฤดูฝนปีนี้ว่าหลายพื้นอาจมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมฉับพลัน ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานเร่งรัดดำเนินการ ดังนี้ 

1) ให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการจัดทำแผนและมาตรการรับน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำและพื้นที่ลุ่มต่ำ 12 ทุ่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพื่อรองรับน้ำหลาก ให้แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2563 สำหรับทุ่งรับน้ำใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ ลำน้ำยัง จ.ร้อยเอ็ด และบางพลวง จ.ปราจีนบุรี ให้จัดเตรียมพื้นที่ให้แล้วเสร็จในปีต่อไป 

2) ให้กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เร่งจัดทำเกณฑ์การบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำและเกณฑ์ระบายน้ำในส่วนที่เหลือ ให้แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2563

3) ให้กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร และจังหวัดในเขตปริมณฑล จัดทำเกณฑ์การระบายน้ำ การควบคุมระดับน้ำ การสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 13 แห่ง ให้ชัดเจน และกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังและแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร 

4) ให้กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า การรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ปรับแผนงานปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ ปี 2563 ให้แล้วเสร็จก่อนฤดูน้ำหลาก พร้อมจัดทำแผนงานส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จ ในปี 2565 

5) ให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เร่งรัดการกำจัดผักตบชวาในแม่น้ำสายหลักให้แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2563 ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถรองรับสถานการณ์ได้ทันเวลาและลดผลกระทบที่อาจเกิดต่อทรัพย์สิน ชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชน ให้ได้มากที่สุด

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้มีความห่วงใยต่อปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มักประสบปัญหาการระบายน้ำไม่ทัน ดังนั้น เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานภายใต้ กอนช. ด้านบูรณาการและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลขึ้น จากผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาได้ดำเนินการขุดลอกคู คลอง สองฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต และคลองเชื่อมถนนวิภาวดีรังสิตลงคลองเปรมประชากรตั้งแต่เขตดอนเมืองถึงเขตดินแดง แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2563 เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันการดำเนินงานจะเน้นย้ำในส่วนของด้านรองรับสถานการณ์น้ำหลากเนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน แต่ กอนช. ยังคงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ ปี 2562/63 โดยขณะนี้ได้ดำเนินการแล้ว 1,408 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 86.59 ของจำนวนพื้นที่ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว สามารถเพิ่มปริมาณน้ำบาดาล 47.71 ล้าน ลบ.ม./ปี ประชาชนได้รับประโยชน์จากน้ำบาดาล 203,891 ครัวเรือน สามารถเพิ่มปริมาณน้ำดิบผลิตประปา 61.54 ล้าน ลบ.ม./ปี ผู้ใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น 183,192 ราย มีน้ำประปาสำรอง 0.70 ล้าน ลบ.ม. พร้อมทั้งได้ร่วมติดตามความก้าวหน้าของโครงการเร่งด่วนเพื่อการกักเก็บน้ำในฤดูฝน ปี 2563 โดยขณะนี้ดำเนินการแล้ว จำนวน 286 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 15.57 ของจำนวนพื้นที่ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว โดยสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 61.10 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 255,938 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 81,391 ครัวเรือน จ้างแรงงาน 6,159 คน ซึ่งทุกหน่วยงานจะเร่งดำเนินการให้ครบทุกพื้นที่เป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ