กรุงเทพฯ 2 มิ.ย.-เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน คดีอดีตพันจ่าฯและภรรยาโดนอุ้มมาราธอนจากเวียงจันทน์โผล่เชียงราย หาความเชื่อมโยงความผิดเสนออัยการเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย พร้อมช่วยเหลือภรรยาที่ยังหายตัวอย่างไร้ร่องรอย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีที่สื่อนำเสนอข่าว “อดีตพันจ่าฯโดนอุ้มมาราธอนจากเวียงจันทน์โผล่เชียงราย สะพัดพันปมส่งสินค้าผ่านไทยไม่ได้” นั้น ได้รับรายงานจาก กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 63 พ.อ.ท.หรือ นายสุวัฒน์ พันธุ์แตง อายุ 45 ปี ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เกาะช้าง จว.เชียงรายว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2563 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ พ.อ.ท.หรือนายสุวัฒน์ พันธุ์แตงและนางน้ำทิพย์ ปะวันเนา ภรรยา อยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านพัก บ้านเกิ๋นเหนือ เมืองทุละคม แขวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 7-10 คน มี 2 คนแต่งเครื่องแบบทหารลาวถือปืนอาก้าจับกุมตัว พ.อ.ท.หรือนายสุวัฒน์ฯกับ ภรรยา ขึ้นรถยนต์ จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 28 พ.ค. 2563 ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าว ได้พาเดินเท้าข้ามภูเขา ประมาณ 9 ชั่วโมง จนถึงรีสอร์ทแห่งหนึ่ง มีชายฉกรรจ์ประมาณ 8 คน มารอรับ แล้วใช้ผ้าปิดตา พาไปควบคุมตัวไว้ที่บ้านหลังหนึ่งไม่ทราบว่าที่ใด แล้วกักขังไว้ในห้องนอนเพียงคนเดียวเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน โดยสวมกุญแจมือไว้ด้วย ต่อมาวันที่ 1 มิ.ย. 2563 เวลาประมาณ 01.00 น. พ.อ.ท.หรือนายสุวัฒน์ได้ใช้ลวดไขกุญแจออกข้างหนึ่ง แล้วหลบหนีออกมาทางช่องลมหลังห้องน้ำ วิ่งหลบหนี จนมาถึง สภ.เกาะช้าง จว.เชียงราย
หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะช้าง จว.เชียงราย ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารและผู้ใหญ่บ้านสันนา ม.2 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จว.เชียงราย ร่วมกันไปตรวจสอบยังบ้านหลังที่ถูกกักขังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบว่าบ้านที่เกิดเหตุ อยู่ในเขตท้องที่ สภ.เกาะช้างฯ จริง แต่ไม่พบภรรยาของผู้แจ้งอยู่ในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับคดีดังกล่าว เข้าข่ายข้อหาความผิดฐาน “หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” ซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทย แต่ได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นตั้งแต่นอกราชอาณาจักร เกี่ยวพันต่อเนื่องกันจนกระทั่งเกิดเหตุภายในประเทศไทย โดยในเบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.เกาะช้าง จว.เชียงราย จะเร่งรัดสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน หาความเชื่อมโยงการกระทำความผิด ตลอดจนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้อง รายงานไปยัง อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป